ข่าวปนคน คนปนข่าว
แหม่!พอ “ม็อบคนไม่เอาถ่าน” เก็บของกลับบ้าน ท่าทีรัฐบาล คสช. ชักจะยังไงๆ ซะแล้ว ทีแรกแถลงตกปากรับคำ“เซตซีโร่” เริ่มต้นทำ“อีไอเอ” รายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม กับ “อีเอชไอเอ”รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพใหม่หมด แต่มาวันนี้ “คนในรัฐบาล” บอกเข้าใจผิด - มโนกันไปเอง เพราะไม่ได้ยกเลิกของเก่าแล้วนับหนึ่งใหม่ แค่จะทบทวนเท่านั้น อ้างว่า ถ้านับหนึ่งใหม่มันจะไม่ทันการ ไม่ทันกิน เสียเวลาไปอีกอย่างน้อยๆ 2 ปี ถ้าแค่ทบทวนของเดิมคงใช้เวลาไม่เกินปี โดยจะเปิดให้ประชาชนในพื้นที่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็น“ไตรภาคี” คณะกรรมการ 3 ฝ่าย อุดช่องโหว่ที่ตอนทำ อีไอเอ - อีเอชไอเอ ครั้งแรกไม่ได้มีส่วนร่วม
ถ้าตอบกับผู้ชุมนุมแบบนี้ ตั้งแต่วันที่ “บิ๊กแดง” พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 “ท่านไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล และ“บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ไปแถลงร่วมกับแกนนำ ว่า แค่ทบทวนไม่ใช่เซตซีโร่ ชาวบ้านจะยอมเก็บข้าวเก็บของกลับปักษ์ใต้กันหรือเปล่า
เสียงหนึ่งที่บอกว่าไม่เซตซีโร่ ก็เสียงของ“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่ดูแลงานด้านความมั่นคง รับผิดชอบตอนที่มีม็อบมาชุมนุมอยู่ข้างทำเนียบรัฐบาล พอผู้ชุมนุมกลับไปหมดแล้ว แทนที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น ดัน“เรียกแขก” คำรามออกมาราวกับ“กูรูพลังงาน” ที่บอกว่า “โครงการนี้จะต้องดำเนินต่อไป เพียงแต่ตอนนี้ชะลอไว้ก่อน การทำ อีไอเอ และ อีเอชไอเอ ชุดใหม่จะแล้วเสร็จ ต่อไปไฟฟ้าที่เกาะสมุย ที่ภูเก็ต จะไม่ดับ ซึ่งเราก็ต้องเตรียมการล่วงหน้า ไม่ใช่ว่าเราจะไม่มีโรงไฟฟ้าที่จะดูแลประชาชนในอนาคตเลย” ... ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ที่แขวะว่า “ทหารทำได้ทุกอย่าง” ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ขนาด “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” ยังกลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานไปเสียอย่างนั้น เมาต์กันว่า ที่พี่ใหญ่ออกตัวแรงขนาดนี้ ส่งสัญญาณไปเอาใจใครหรือเปล่า
จะว่าไป ตอนเขาตึงเครียดเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ กันอยู่ “พรรคประชาธิปัตย์” ก็ยังมีแอ็กชันแต่พองาม ในฐานะกุมฐานเสียงมวลชนในพื้นที่ด้ามขวาน ก็ต้องออกโรงมารักษาคะแนนเสียงพอเป็นพิธี หรือแม้แต่แกนนำภาคประชาชน ที่เคลื่อนไหวเรื่องอื่นก็มาให้กำลังใจประชาชนที่มาปักหลักตากแดด ตากลม แต่ที่ต้องปักป้าย “ตามหาคนหาย” ก็คนดีของเหล่ามวลมหาประชาชน “กำนันเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ที่บอกรักพี่น้องชาวใต้หนักหนา แต่เงียบกริ๊บ หายหน้าหายตาไปไหนไม่ทราบได้ ทั้งที่เป็นเรื่องความเป็นอยู่กับชาวบ้านแท้ๆ คงจะกลัว“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เคืองเอาละมั้ง
เรื่องวัดพระธรรมกาย ยังไงก็ยืนยันกันแล้วว่าไม่ยกเลิกการใช้ ม.44 แต่นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ยังคลำหาตัว“ธัมมชโย" ไม่เจอ ทั้งที่บางกระแสก็ว่าเตลิดออกไปหลายวันแล้ว แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยังมุ่งมั่นทำต่อไป แบบที่ใครหลายคนงง แต่งานนี้ดูไปดูมา เป้าหมายของฝ่ายรัฐ ไม่น่าจะใช่จะอยู่แค่ตัวของ“อดีตเจ้าอาวาสจอมฉาว” คนเดียว แต่หวังเล่นภาพรวมทั้งหมด ก็เห็นกันอยู่ หลายวันมานี้ ตำรวจที่ประชาชนเกลียดเข้าไส้ กลายเป็นผู้น่าสงสาร ที่กำลังได้รับกำลังใจล้นหลาม โดยเฉพาะคิวที่ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กระแอมไปดังๆ ว่า “หลวงพ่อกล้าๆ หน่อย” ทำเอาคนเฮทั้งเมือง ในทางตรงข้าม เป็น “พระวัดธรรมกาย” ที่ถลำลึก เสียเอาๆ ตั้งแต่หน้ากากอนามัย จนการยั่วยุ แล้วยิ่งทำก็เหมือนยิ่งเสียเหลี่ยมให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปทุกที อยู่ที่ฝ่ายรัฐเองจะเผด็จศึกให้สิ้นซากเมื่อไร ขืนชักช้าจาก “ดอกไม้” จะกลายเป็น“ก้อนหิน” อย่างลืมว่าสังคมไทยพลิกเร็วเสียยิ่งกว่าอะไร
ถือว่าได้ที หลังหมายเชิญร่วมวงปรองดองร่อนมาถึง “พรรคเพื่อไทย” ก็นัดสุมหัวกันอย่างเป็นทางการเพื่อตกลงหาตัวแทนไปพูดคุยกับอนุกรรมการในคณะกรรมการเตรียมการสร้างความปรองดอง ชุดที่มี “บิ๊กป้อม”เป็นเจ้าภาพ หลังจากช่วง 2 - 3 ปีมานี้เปิดวอร์รูมแบบหลบๆ ซ่อนๆ มาตลอด จริงๆ เรื่องตัวแทนที่จะไปถกกับทหาร ก็เดาไม่ยากหรอก ส่วนใหญ่ก็หน้าเดิมๆ ที่ยังเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น เช่นเดียวกับข้อเสนอ ก็คงไม่หวือหวาอะไร วนเวียนอยู่แต่กับเรื่องเลือกตั้งให้เร็วที่สุด ก็แค่นั้น ... ถ้าจะให้รู้เช่นเห็นชาติ ก็ไม่ต้องอะไรมาก ส่ง“หนูปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะจุดขายของพรรคไปคุย แค่นี้ “พี่ทหาร” ก็สะดุ้งแล้ว อาจจะพ่วง“หญิงหน่อย” คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่ กทม. ไปอีกคน จะได้พูดคุยกันคล่องๆ โดยเฉพาะรายหลังที่ช่วงนี้เดินงานปรองดองหลังไมค์ เอาใจ “พี่ใหญ่” น่าดู .
ช.ชฎา