xs
xsm
sm
md
lg

ม.44 เร่ง “โครงการบ้านมั่นคง” มูลค่า 4,061 ล้าน ชุมชนริมคลองลาดพร้าว-คลองเปรมประชากร ล่าช้ามา 4 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บิ๊กตู่” ใช้ ม.44 เร่งโครงการบ้านมั่นคงชุมชนริมคลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากร เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกลำน้ำสาธารณะ มูลค่า 4,061 ล้าน พร้อมกำหนดผังโครงการ หลังล่าช้ามากว่า 4 ปี เตรียมเดินหน้าโครงการ “บ้านประชารัฐริมคลอง” ในคลองลาดพร้าว และคลองบางซื่อ เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาล ระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2559 - 2561) เป้าหมาย 52 ชุมชน รวม 7,081 ครัวเรือน

วันนี้ (21 ก.พ.) มีรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๙/๒๕๖๐ เรื่อง การดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว และ คลองเปรมประชากร เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกลำน้ำสาธารณะ

โดยที่รัฐบาลมีนโยบายสำคัญเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดและการปลูกสร้างที่อยู่อาศัย และสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลําน้ำสาธารณะ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๕ เห็นชอบ การบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ประกอบกับข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษา ความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ให้กำหนดมาตรการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหา ชุมชนแออัดและการสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำแนวลำคลองและทางระบายน้ำโดยมีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ของชุมชนตามแนวคลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองถนน คลองสอง คลองบางซื่อ และ คลองเปรมประชากร อันจะเป็นประโยชน์ในการสร้างระบบระบายน้ำ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย รวมทั้งการพัฒนา คุณภาพชีวิต และที่อยู่อาศัยรองรับให้แก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ในการนี้ กรมธนารักษ์ สถาบันพัฒนา องค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และ กรุงเทพมหานคร จึงได้เข้าดำเนินการสร้างความเข้าใจกับชุมชน ตามแนวคลองดังกล่าวเพื่อจัดทำที่อยู่อาศัยในที่ดินราชพัสดุเฉพาะพื้นที่ภายในโครงการก่อสร้างเขื่อน คอนกรีตเสริมเหล็ก และประตูระบายน้ำ โดยให้ชุมชนรวมกลุ่มกันในรูปแบบสหกรณ์ซึ่งเป็นรูปแบบ ที่เหมาะสมในการบริหารจัดการ และกำหนดมาตรการทางสิ่งแวดล้อมเพื่อให้โครงการได้ปฏิบัติร่วมกัน เพื่อประโยชน์สาธารณะในการสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง แก้ไขปัญหาการบริหาร ทรัพยากรน้ำของชาติ และป้องกันปัญหาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในคำสั่งนี้ “โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย” หมายความว่า โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กและประตูระบายน้ำ คลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองถนน คลองสอง และ คลองบางซื่อ จากบริเวณเขื่อนเดิมอุโมงค์ยักษ์พระรามเก้า - รามคำแหง ไปทางประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้ และโครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กคลองเปรมประชากร จากบริเวณเขื่อนเดิมถนนรัชดาภิเษกถึงคลองรังสิตประยูรศักดิ์

ข้อ ๒ ให้การก่อสร้างอาคารตามโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย เฉพาะภายในแนวเขต ตามแผนที่ท้ายคำสั่งนี้ ได้รับยกเว้นการบังคับใช้บทบัญญัติ ดังต่อไปนี้

(๑) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๑๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุม การก่อสร้างอาคาร พุทธศักราช ๒๔๗๙ (๒) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๕๕ (พ.ศ. ๒๕๔๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ เฉพาะอาคารอยู่อาศัย อาคารอยู่อาศัยรวม บ้านแถว และบ้านแฝด สำหรับอาคาร ประเภทอื่น ให้ได้รับการยกเว้นการใช้บังคับเฉพาะที่ว่างโดยรอบอาคารตามข้อ ๓๔ ข้อ ๓๕ และข้อ ๓๖ และระยะร่นแนวอาคารตามข้อ ๔๐ ข้อ ๔๑ ข้อ ๔๒ ข้อ ๔๔ ข้อ ๔๕ และ ข้อ ๔๖ ทั้งนี้ อาคารตามวรรคหนึ่งต้องร่นแนวอาคารให้ห่างจากเขตแหล่งน้ำสาธารณะไม่น้อยกว่า ๒ เมตร (๓) กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๕๖ (๔) กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดปทุมธานี พ.ศ. ๒๕๕๘ (๕) ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๔๔ เฉพาะอาคารอยู่อาศัย อาคารอยู่อาศัยรวม บ้านแถว และ บ้านแฝด สำหรับอาคารประเภทอื่นให้ได้รับการยกเว้นการใช้บังคับ เฉพาะระยะร่นแนวอาคารตามข้อ ๕๐ ข้อ ๕๒ (๓) (๔) (๕) (๖) และข้อ ๕๓ และหมวด ๙ อาคารจอดรถ ที่จอดรถ ที่กลับรถ และทางเข้าออกของรถ ข้อ ๘๓ ถึงข้อ ๑๐๗

ข้อ ๓ ให้นำกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้น ผ่อนผัน หรือกำหนดเงื่อนไข ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารสำหรับอาคารในโครงการที่รัฐจัดให้มี หรือพัฒนาเพื่อเป็นที่อยู่ สำหรับผู้มีรายได้น้อย พ.ศ. ๒๕๕๔ มาใช้บังคับกับการก่อสร้างอาคารโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ การก่อสร้างอาคารจะต้องมีความแข็งแรงและความปลอดภัยของอาคาร หรือความปลอดภัยของผู้ซึ่งอยู่อาศัย หรือใช้อาคารตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร

ข้อ ๔ ให้การดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยได้รับยกเว้นการจัดทำรายงานผลกระทบ สิ่งแวดล้อมตามมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งอย่างน้อยต้องมีมาตรการ เคลื่อนย้ายชุมชนและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่สำนักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ความเห็นชอบ และให้ถือว่ามาตรการดังกล่าวมีผลเช่นเดียวกับ มาตรการที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๕๐ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบ สิ่งแวดล้อมต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนเริ่มดำเนินการก่อสร้าง และต้องรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวต่อหน่วยงานอนุญาต และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปีละสองครั้ง

ข้อ ๕ ให้การก่อสร้างอาคารตามโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง เฉพาะโครงการก่อสร้าง เขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กและประตูระบายน้ำ คลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองถนน คลองสอง และคลองบางซื่อ จากบริเวณเขื่อนเดิมอุโมงค์ยักษ์ พระรามเก้า - รามคำแหง ไปทางประตูระบายน้ำ คลองสองสายใต้ ที่ได้ดำเนินการอยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ เป็นการดำเนินการที่อยู่ภายใต้บังคับของคำสั่งนี้ด้วย

ข้อ ๖ ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้

ข้อ ๗ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๐
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

สำหรับโครงการสร้างเขื่อนและการจัดระเบียบชุมชนริมคูคลอง 1 ใน 18 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ มีนโยบายแก้ไขปัญหาเรื่องการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเพื่อป้องกันน้ำท่วม ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนปี 2554 โดยมอบหมายให้ กทม. รับผิดชอบการสร้างเขื่อนในคลองลาดพร้าว ความยาวรวมทั้งสองฝั่งประมาณ 45 กิโลเมตร (บริษัท ริเวอร์เอ็นจิเนียริ่ง ประมูลงานได้ในวงเงิน 1,645 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเขื่อนเดือนกุมภาพันธ์ 2559 - มิถุนายน 2562)

และมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. รับผิดชอบการจัดหาที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับชาวบ้านที่ปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำลำคลอง ซึ่ง พอช. ได้จัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองตามโครงการบ้านมั่นคง เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาล ระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2559 - 2561) ในคลองลาดพร้าว บางซื่อ และเปรมประชากร มีเป้าหมาย 74 ชุมชน รวม 11,004 ครัวเรือน จำนวน 64,869 คน ใช้งบประมาณรวม 4,061 ล้านบาทเศษ

นโยบายดังกล่าวนี้ ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญ 1 ใน 18 โครงการที่รัฐบาล คสช.ต้องการจะสร้างให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว (โครงการอื่น เช่น โครงการประชารัฐ การแก้ไขปัญหาบุกรุกพื้นที่ป่า การแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ ประมงผิดกฎหมาย ฯลฯ)

โครงการดังกล่าวนี้ มี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการจัดระเบียบสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำคลอง มีกระทรวงต่างๆ เข้าร่วมเป็นกรรมการ มีสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) เป็นแม่งานใหญ่

ทั้งนี้ แผนงานดังกล่าวจะมีโครงการ “บ้านประชารัฐริมคลอง” ในคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อ เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาล ระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2559 - 2561) มีเป้าหมาย 52 ชุมชน รวม 7,081 ครัวเรือน โดยในปี 2559 - 2560 จะดำเนินการในคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อก่อน จำนวน 33 ชุมชน รวม 3,672 ครัวเรือน ส่วนพื้นที่ที่จะดำเนินการอยู่ในเขตสายไหม ดอนเมือง บางเขน หลักสี่ จตุจักร ห้วยขวาง และวังทองหลาง โดยในขณะนี้สร้างบ้านเสร็จไปแล้ว 4 ชุมชน รวม 549 หลัง

มีรายงานว่า ก่อนหน้านั้น มีปัญหาระหว่างชาวชุมชนริมคลองต่างๆ ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันและกรุงเทพมหานคร มีนโยบายที่จะย้ายชาวบ้านออกจากริมคูคลองเพื่อก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตและประตูระบายน้ำในการแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะริมคลองลาดพร้าว ซึ่ง พม. ตั้งเป้าไว้ว่าให้ย้ายชาวบ้านออกกว่า 3,000 ครอบครัวให้แล้วเสร็จในปี 2559 โดยให้พอช.จัดทำโครงการบ้านมั่นคงสำหรับบุคคลเหล่านี้

แต่ปรากฏว่าพอช.สามารถจัดทำบ้านมั่นคงให้ได้แค่เพียงกว่า 100 หลัง เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมธนารักษ์ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ส่วนใหญ่ ไม่สามารถส่งมอบที่ดินให้ได้ เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานครที่ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้เลย
กำลังโหลดความคิดเห็น