นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เผยหลังถกแกนนำองค์กรสื่อ ยันค้านการออกกฎหมายให้องค์กรใดมาลงโทษสื่อมวลชน เปิดช่องอำนาจรัฐจุ้น จำกัดสิทธิรับรู้ข้อมูล ชูกลไกควบคุมกันเองมีประสิทธิภาพ ให้ภาคประชาชนร่วมตรวจสอบ จี้ยุติกำกับเสรีภาพ พร้อมจัดประชุมสมัชชาสื่อมวลชนแห่งชาติ เพื่อปฏิรูปกันเอง
วันนี้ (20 ก.พ.) นายเทพชัย หย่อง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ในฐานะประธานคณะทำงานสื่อเพื่อการปฏิรูป เปิดเผยภายหลังการประชุมแกนนำองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนร่วมกับสื่อมวลชนอาวุโสว่า ตามที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) โดยคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชนฯ ได้ดำเนินการยกร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ... โดยคณะกรรมการประสานงานกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศได้ขอให้คณะกรรมาธิการกลับไปทบทวนร่างกฎหมายดังกล่าวนั้น องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ขอยืนยันว่า ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ... ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาพยายามจะทบทวนแก้ไขนั้น มิได้อยู่บนพื้นฐานหลักการของการคุ้มครองสิทธิเสรี ภาพของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน โดยยังเปิดโอกาสให้มีการใช้อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงการทำหน้าที่โดยอิสระของสื่อมวลชน และไม่สอดคล้องกับหลักการของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับที่ผ่านการลงประชามติ ซึ่งมีเจตนารมณ์ให้สื่อมวลชนกำกับดูแลกันเองโดยอิสระและปราศจากการแทรกแซงจากภาครัฐ
นายเทพชัยกล่าวอีกว่า ที่ประชุมมีมติยืนยันไม่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายให้อำนาจองค์กรใดองค์กรหนึ่งมาลงโทษสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นโทษทางอาญาหรือโทษทางปกครอง เพราะเท่ากับเป็นการเปิดช่องให้อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ซึ่งเท่ากับเป็นการจำกัดสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน พร้อมทั้งยืนยันหลักการการกำกับดูแลกันเองของสื่อมวลชน โดยในปัจจุบันได้มีปรับปรุงกลไกการควบคุมกันเองให้มีประสิทธิภาพตลอดเวลาอยู่แล้ว และได้มีกระบวนการในการเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนผ่านองค์กรวิชาชีพมากขึ้น ขณะเดียวกัน มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำกับควบคุมการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนอยู่ไม่น้อยกว่า 30 ฉบับ
“ความพยายามในการออกกฎหมายควบคุมสื่อมวลชนภายใต้บรรยากาศที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย ย่อมไม่สามารถนำไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้ เราจึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยุติการออกกฎหมายจำกัดเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน” นายเทพชัยกล่าว
ประธานคณะทำงานสื่อเป็นการปฏิรูปกล่าวด้วยว่า องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนมติร่วมกันให้มีการจัดการประชุมสมัชชาสื่อมวลชนแห่งชาติเพื่อกำหนดท่าทีของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนทั่วประเทศในเรื่องการปฏิรูปสื่อและยืนยันหลักการกำกับดูแลกันเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่