“วิลาศ” เร่ง “ประยุทธ์” จัดการอดีตผู้ว่าฯ เลย-มุกดาหาร ที่นั่งเก้าอี้ สนช.เอี่ยวทุจริตยาปราบศัตรูพืช หลัง ปปง.อายัดทรัพย์อดีตผู้ว่าฯ อุบลราชธานี 384 ล้าน พิสูจน์เอาจริงจัดการคนโกง เผยผู้ว่าการ สตง.ส่งหนังสือถึงบอร์ดการประปาภูมิภาค ปลด “เสรี ศุภราทิตย์” เหตุขาดคุณสมบัติ
วันนี้ (19 ก.พ.) นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการธุรกรรม ปปง.มีหนังสือสั่งอายัดทรัพย์ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กรณียาปราบศัตรูพืช 384 ล้านบาท โดยมีการระบุเหตุผลว่ามาจากหนังสือจากคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาและ สตง.ที่มีไปถึง ปปง. เมื่อตรวจสอบแล้วก็เห็นชอบและอายัดทรัพย์ดังกล่าวจึงอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่าเรื่องการทุจริตยาปราบศัตรูพืชมีผู้ว่าฯ เกี่ยวข้อง 22 คน นายกฯ เคยใช้มาตรา 44 ไล่ผู้ว่าฯ ออกไป 2 คน นายอำเภอ 10 กว่าคน และข้าราชการอีกร้อยกว่าคน แต่มีผู้ว่าฯ 2 คนที่เป็น สนช.คือ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ที่ได้จัดซื้อจัดจ้างวงเงิน 811 ล้านบาท และอดีตผู้ว่าฯ จังหวัดเลย วงเงิน 305 ล้านบาท กลับไม่ถูกดำเนินการใดๆ จึงเห็นว่าการพูดว่าจะเอาคนทุจริตเข้าคุก แต่คนที่เป็นหัวหน้าไม่เอาจริงก็จบ จึงฝากไปถึงนายกฯ ว่าหากยังคิดว่าสอง สนช.ไม่ผิดก็ให้ไปยกเลิกการให้ผู้ว่าฯ อุบลราชธานีกับบึงกาฬออกจากราชการ แต่ถ้าคิดว่าผิดต้องดำเนินการต่อ สนช.อีก 2 คนนี้ด้วย
นายวิลาศยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบคุณสมบัติของนายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค ที่ได้มีการยื่นเรื่องให้ สตง.ตรวจสอบว่า ได้รับคำยืนยันจากนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการ สตง.ว่ามีหนังสือถึงการประปาส่วนภูมิภาคแล้วว่าคุณสมบัติผู้ว่าการประปาไม่ถูกต้อง ให้บอร์ดและผู้บริหารระดับสูงดำเนินการตามมาตรา 8 เบญจ ของร่าง พ.ร.บ.มาตรฐานพนักงานรัฐวิสาหกิจให้พ้นจากตำแหน่ง ตนจะติดตามเรื่องนี้และปรึกษานักกฎหมายว่าหากยังอยู่ในตำแหน่งลอยนวลก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีเองโดยไม่ต้องรอ ป.ป.ช. โดยจะเอาผิดกับบอร์ดปัจจุบันและ รมว.มหาดไทยในฐานะที่เป็นผู้บริหารระดับสูง แต่ต้องดูข้อกฎหมายด้วยเพราะอาจตีความว่าตนไม่ใช่ผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม ตนอยากทำให้เป็นกรณีตัวอย่าง