xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ชูรัฐปฏิรูปมุ่งสู่ไทยแลนด์ 4.0 ลั่น 5 ปีต้องเกิด ยันไม่ให้มีโกงเด็ดขาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรี เปิดสัมมนา Opportunity Thailand ขอบคุณนักธุรกิจให้โอกาสไทย ชูรัฐปฏิรูปทุกมิติสู่ไทยแลนด์ 4.0 ใช้ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางพัฒนา เร่งสร้างความเข้มแข็งให้ท้องถิ่น ฝากสถานศึกษา โรงงาน ทำให้คนไทยใช้ภาษาต่างชาติได้ กระจายความเจริญไปสู่ทุกภูมิภาค ลั่น 5 ปีแรกต้องเกิดตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ยันต้องไม่มีทุจริตโดยเด็ดขาด ชี้ ป.ย.ป.เร่งดันทุกอย่างไม่ใช่แค่ปรองดอง บอกปมเศรษฐกิจสำคัญสุด

วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ศูนย์แสดงสินค้า และการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา “Opportunity Thailand” พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “โอกาสกับประเทศไทย 4.0” ตอนหนึ่งว่า โอกาสมีทุกวัน ซึ่งเราต้องใช้โอกาสเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศและโลก ทุกคนต้องช่วยกันทำโอกาสให้เป็นโอกาส ขอบคุณนักธุรกิจทุกคนที่ให้โอกาส และให้เกียรติกับประเทศไทย และตน ทุกคนทราบดีว่า โลกมีการเปลี่ยนแปลงทั้งสถานการณ์ และเหตุการณ์ ทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศ ในประชาคมโลก ดังนั้น ความมั่นคงทางเศรษฐกิจนั้นขึ้นอยู่กับความมีเสถียรภาพทางการเมือง และความมั่นคงเป็นหลักที่จะทำให้ทุกอย่างก้าวหน้าไปได้ด้วยดี วันนี้ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์นี้มีเสถียรภาพ ความมั่นคง มีการวางแผนระยะยาว มีการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์โลก ทุกประเทศมีการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ด้านซึ่งมีความเชื่อมโยงกันทั้งหมด ซึ่งเราต้องดูปัจจัยทั้งหมดว่ามีผลกระทบกับเราในด้านใดบ้าง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทุกประเทศจำเป็นต้องคิดกลยุทธ์ของตัวเองขึ้นมา เพื่อรักษาระดับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพราะมีผลกระทบโดยรวม เช่นเดียวกันประเทศไทยก็ต้องมีการปรับตัว เปลี่ยนแปลงรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องเร่งสร้างความเข้มแข็ง และความยั่งยืนให้กับประเทศในทุกด้าน ในระยะเวลา 20 ปี คือ การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางด้านการเมือง และการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐบาลได้มีนโยบายขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศในทุกมิติ ไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการพึ่งพา นวัตกรรม หรือองค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยี โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และศักยภาพการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาว และก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนา และสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างความสมดุล และความยั่งยืนใน 4 มิติ ทั้งความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างสังคมอยู่ดีมีสุข และเสริมสร้างภูมิปัญญาของมนุษย์ ไม่ใช่แค่เน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้น้อมนำแนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลักคิดที่สอดคล้องกับโมเดลประเทศไทย 4.0 มาเป็นแนวทางในการพัฒนา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงทำงานครองราชย์ 70 ปี ทุกคนสามารถนำสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ท่านทรงมีกระแสรับสั่งมาปรับประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ปัจจุบัน ตลอดเวลา 70 ปีของการครองราชย์ พระองค์ทรงวางรากฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้อก่ประเทศรอบด้าน ซึ่งปัจจุบันมีการนำโครงการพระราชดำริต่างๆ ไปใช้อย่างกว้างขวางจนมีการถวายรางวัลระดับโลกแด่พระองค์ท่านในหลายรางวัล ผลงานของพระองค์ท่านสร้างประโยชน์และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย และเผยแพร่ไปยังนานาประเทศ และนำไปประยุกต์ใช้กว่า 100 ประเทศ เราต้องภาคภูมิใจที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ และสิ่งสำคัญ เราต้องนำศาสตร์พระราชามาใช้

นายกฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญอีกประการที่ทรงมีกระแสรับสั่งไว้ คือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ท้องถิ่น ถือเป็นการสร้างรากฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาความมั่นคงของประเทศ รัฐบาลจึงได้เร่งแก้ไขปัญหา และสร้างความเข้มแข็งจากภายในให้แก่ชุมชนในลักษณะการพึ่งตนเอง คือ ทำให้ชุมชน หมู่บ้าน มีพื้นฐานที่มั่นคงพอสมควร แล้วจึงสร้างความเจริญ และยกระดับเศรษฐกิจให้สูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป รัฐบาลมุ่งสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยสืบสานพระราชปณิธานที่ได้ทรงวางรากฐานไว้ เพื่อสร้างประโยชน์ และความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ให้แก่ประชาชนไทย และเผื่อแผ่ไปยังเพื่อนบ้าน และนานาประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทยเสมอมา ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อคนไทย โดยทรงรับสั่งขอให้ใช้แนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ไปปฏิบัติและเป็นหลักคิดในการพัฒนาประเทศต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ประเทศไทยจะต้องปฏิรูปให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งทางสังคม การศึกษา กฎหมาย และความมั่นคง รวมทั้งการรักษาทรัพยากรของประเทศ เพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่งอย่างยั่งยืน ดังนั้น การจะก้าวข้ามไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 จะต้องเน้นเศรษฐกิจที่มีคุณค่า ที่สำคัญคนไทยจะต้องมีความพร้อมซึ่งต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ เพื่อสอดคล้องกับการนำพาเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0 โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ประชาชน พัฒนาคนไทยให้มีทักษะความรู้ มีความคิดเชิงสร้างสรรค์ รู้เท่าทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน ซึ่งเราจะให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจอย่างเดียวไม่ได้ต้องให้ความสำคัญในเรื่องของคน และทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด เราจะทำ 3 ส่วนนี้อย่างไร เพื่อที่จะยกระดับรายได้ของคนในประเทศ ให้ก้าวพ้นจากกับดักตัวเอง ดังนั้นวันนี้เราต้องมาช่วยกันเปลี่ยนแปลงตัวเอง

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า การพัฒนาคนเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะเรื่องของภาษาถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องให้ความสนใจกับภาษาต่างประเทศให้มากขึ้นเหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีโอกาสได้ใช้มากกว่าเรา ดังนั้นขอฝากสถานศึกษาทั้งหมดให้เตรียมการรวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องพัฒนาคนไทยให้สามารถใช้ภาษาต่างประเทศให้ได้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อแรงงาน และสนับสนุนงานของพวกท่านเอง เพื่อความพร้อมรองรับการลงทุนของไทย รัฐบาลนี้ยืนยันว่าจะตอบสนองความต้องการการลงทุนให้ได้ โดยยึดหลักการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ มีเป้าหมายสอดสอดคล้องความต้องการ นำไปสู่การปฏิบัติได้จริงเห็นผล และคำนึงถึงส่วนรวมจะต้องมีการสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมในองค์กรด้วย

นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในบรรดาเพื่อนบ้านในอาเซียน ซึ่งมีความพร้อมและมีศักยภาพสูงพอในการที่จะเป็นแกนกลางในการพัฒนาเศรษฐกิจ รัฐบาลไทยพยายามผลักดันไทยเป็นศูนย์กลาง ด้านการค้าการลงทุนของภูมิภาค โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง มีแผนพัฒนาที่เรียกว่า ไทยแลนด์ + 1 เชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านสร้างความร่วมมือระหว่างกันพร้อมเพิ่มการตลาดให้มากขึ้น ดังนั้นไทยมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางเรื่องเหล่านี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า แม้ไทยจะมีทรัพยากรสมบูรณ์มีความหลากหลาย ทางวัฒนธรรม มีธรรมชาติที่สวยงาม สภาพอากาศที่น่าอยู่ น่าอาศัยจนทำให้ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีแรงดึงดูดใจของชาวต่างชาติในการเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ แต่เราจะหยุดการหารายได้จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างจำกัดนี้ไม่ได้อีกหรือจะพึ่งสินค้าแบบเดิมๆ ไม่ได้ถือเป็นการจำกัดการเจริญเติบโตเศรษฐกิจของประเทศและการท่องเที่ยวก็คงมีไม่มากไปกว่านี้ ดังนั้นต้องคิดใหม่ เปลี่ยนแปลง ปฏิรูป ทำอย่างไรกับสิ่งที่มีอยู่ให้มีมูลค่าสูงขึ้นอย่ามัวนั่งรอนอนรออย่างเดียว รัฐบาลไทยจึงคิดโครงการต่างๆ ขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ thailand 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ

“ขณะเดียวกัน เราจำเป็นต้องส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้เข้าถึงโอกาส ถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจจากคนรุ่นใหม่ ที่จะใช้ปัญญาในการประกอบการ จึงหวังว่าทุกคนจะร่วมมือกันเดินไปในทิศทางเดียวกันจูงมือเดินเคียวบ่า เคียงไหล่ไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อยกระดับไปทั้งประเทศ ทั้งอาเซียนให้ได้ เพราะเราเป็นประชาคมอาเซียนและเป็นมิตรกับประเทศอื่นๆและเราอยู่ในโลกใบเดียวกันเราต้องช่วยกันสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจบนพื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวงและมีส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่เป็นธรรมแก่ทุกประเทศ นี่คือหลักการในการร่วมกันพัฒนาโลกใบนี้” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า การพัฒนาจะต้องกระจายความเจริญไปทุกภูมิภาคของประเทศไทยโดยระบบการบริหารราชการแผ่นดิน โดยจัดทำเป็น 6 ภาคในการพัฒนาอย่างสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคใต้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีแผนงานโครงการลงไปในพื้นที่อย่างสอดคล้องรวมถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแก้ปัญหาด้านความมั่นคงไปด้วย ทั้งหมดเพื่อเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนและยุโรป ต้องสร้างกลไกการเชื่อมโยงให้เป็นรูปธรรมให้มากขึ้นจากชุมชนไปสู่กลุ่มจังหวัดไปสู่ชายแดนไปสู่เพื่อนบ้านอาเซียนและยุโรปตะวันตก ตะวันออกโดยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ดังนั้นขอความร่วมมือและขอให้อดทนกับระยะเวลาที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงให้ได้ แต่ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงได้ภายในวันเดียวอย่างที่กรุงโรมเขาบอกว่าไม่ได้สร้างในวันเดียว

นายกฯ กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้ตนยืนยันเป็นไปในทิศทางที่เรากำหนดการปฏิรูปประเทศไว้แล้ว ประเทศไทยต้องมีการปฏิรูป 5 ปีแรกต้องเกิดขึ้นทุกอย่างใน 20 ปีข้างหน้า เพราะฉะนั้นทุกคนมีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์ประเทศไทยวันนี้ด้วย ขอให้มั่นใจทุกอย่างจะยังคงเป็นอย่างนี้ตลอดไป 20 ปีข้างหน้า ตนยืนยันเมื่อเราเริ่มแล้วต้องทำต่อให้ได้ วันหน้าไม่ว่าจะใครหรือรัฐบาลไหนมา จะทำต่อให้ได้เพราะมันเป็นกฎหมายในการที่จะทำวันนี้ จึงอยากให้เกิดการผลักดันอย่างต่อเนื่องในทุกรัฐบาลต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลพยายามแก้ไขระเบียบข้อกฎหมายต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติราชการ เร่งความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อให้การขับเคลื่อนเร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ผ่านมาได้ใช้อำนาจ คสช.อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งเพื่อทำให้เกิดขึ้นได้ก่อน ไม่อย่างนั้นช้าเกินไป เพื่อปรับปรุงการบริการภาครัฐให้มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น นำการประเมินต่างๆ มาดู และแก้ทุกเรื่อง ซึ่งภาครัฐต้องเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาเชื่อมการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และลดขั้นตอนโดยเร็ว โดยเฉพาะภาคธุรกิจตจะต้องได้รับความรวดเร็วในการประกอบธุรกิจ ถ้ามีปัญหาให้แจ้งตนและรัฐมนตรีได้เลยว่า ติดขัดตรงไหน ทั้งหมด ตนยืนยันว่าทุกอย่างจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันในการปฏิรูป 20 ปีข้างหน้า ทุกคนจะอยู่รวมในประวัติศาสตร์ เรามียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ระหว่างปี 60-79 มีร้อยกว่าวาระการปฏิรูป และทุกอย่างจะเป็นอย่างนี้ 20 ปี ไม่ว่ารัฐบาลไหนมาจะทำต่อให้ได้ และตรงนี้ถือเป็นกฎหมาย

“การทำงานของรัฐ ผมยืนยันว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เราจะเดินหน้าเรื่องความโปร่งใส เป็นธรรม กำจัดการทุจริตคอร์รัปชัน จะต้องไม่มีที่ยืนอีกต่อไป ทั้งภาคราชการ และธุรกิจ จะต้องไม่มีการทุจริตคอร์รัปชันโดยเด็ดขาด และจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ขอให้เดินหน้าในเรื่องสำคัญ 3 เรื่องที่ควบคู่ 4.0 คือ การปฏิรูประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง วันนี้จะปรองดองแล้ว ไม่ต้องไปหาอย่างอื่น ทำให้สงบเรียบร้อย มีคนมีพูดคุยหารือกัน จัดทำอะไรใหม่ๆขึ้นมาในประเทศไทย ต้องทำได้ และสิ่งสำคัญประการหนึ่งเวลานี้ คือเรามีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ครบถ้วนสมบูรณ์ มีเสถียรภาพ นั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ขอให้รักษาเสถียรภาพนี้ต่อไป นี้คือการปรองดองที่สำคัญกว่าอย่างอื่น ที่เหลือคือความร่วมมือในการเดินหน้าต่อไป ไม่ให้มีปัญหาในอนาคต คงไม่มีอยู่แล้ว

“ดังนั้น เพื่อการทำงานที่ยั่งยืนเราจึงได้ตั้งคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป) เพื่อให้เกิดเป็นความจริง เป็นรูปธรรม ทั้งกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง เรียกง่ายๆ ว่า ป.ย.ป.อย่าไปสับสน ทุกวันถามอยู่เรื่องเดียวในเรื่องปรองดอง ซึ่งยุทธศาสตร์ เศรษฐกิจ นี่แหละคือความเป็นความตายของประเทศ สำคัญกว่าอย่างอื่น ดังนั้น ต้องให้ความสำคัญเดินไปพร้อมกันทั้งหมด ให้เกิดความชัดเจน โดยมี 4 คณะกรรมการใน ป.ย.ป.เร่งทำทุกอย่าง เอาเรื่องทั้งหมดที่พูดไปเอาไปทำโดยเร็ว” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า พร้อมตั้งสำนักงานสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (พีเอ็มดียู) ขับเคลื่อนในเรื่องใหม่ๆไปเดินหน้าให้ได้ มีปัญหาตรงไหนก็จะขับเคลื่อนให้ได้ ที่การทำงานตรงนี้มีภาคเอกชนร่วมด้วย ที่ไม่ใช่มีตน ทหาร ข้าราชการอย่างเดียว ควบคู่การบริหารราชการแผ่นดินตามปกติในแแท่งเดิม ที่จากครม.ข้าราชการ แล้วไปสู่ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น และเร่งรับฟังความคิดเห็นจากทุกคนขับเคลื่อนไปให้ได้ ให้ 5 ปีแรกสำเร็จให้ได้

นายกฯ กล่าวว่า การดำเนินการของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม สามารถสร้างรายได้ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ สร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคต ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอย่างแท้จริง ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตามแนวทางประชารัฐ ทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษาและประชาสังคม โดยหัวใจหลักที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จ คือการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างบรรยากาศแห่งความปรองดอง เพื่อการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0

“ขอบคุณนักธุรกิจชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย และเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ช่วยกันทำให้ประเทศไทยมีบรรยากาศที่น่าลงทุน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มีความเจริญก้าวหน้า และพัฒนาไปสู่การเป็นประเทศรายได้สูงอย่างยั่งยืน รวมทั้งเพื่อให้นักลงทุนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศมีความเชื่อมั่นว่าประเทศไทย 4.0 จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการทำธุรกิจในโลกอนาคตที่มุ่งไปสู่ความร่วมมือและแบ่งปันระหว่างกันและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันทางธุรกิจมากขึ้นต่อไป” นายกฯ กล่าว


































กำลังโหลดความคิดเห็น