รองนายกฯ แจง คลัง พณ. กรมบังคดี ลุยยึดทรัพย์คดีข้าวได้เลย เว้นศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ชี้ ยึดไม่จำเป็นต้องรายงาน ครม. ถ่ายเททรัพย์สินมีช่องจัดการ
วันนี้ (14 ก.พ.) เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับกรมบังคับคดี และ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวกรวม 6 คน กรณีทุจริตระบายข้าวแบบต่อรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ว่า แม้เรื่องนี้จะเป็นคดีทางปกครอง แต่ขอนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้โดยอนุโลม ทำให้อายุความในการบังคับคดีมีกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่งทางปกครอง ซึ่งระหว่างนี้หากพบมีทรัพย์สินที่ใดสามารถตามยึดหรืออายัดได้ เว้นแต่จะมีการร้องขอให้ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือทุเลาการบังคับคดีอีก และอยู่ที่ศาลด้วยว่าจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ โดยวิธีการยึดทรัพย์นั้นกรมการค้าต่างประเทศ จะเป็นผู้ตั้งเรื่อง ส่วนจะเริ่มบังคับคดีเมื่อไรนั้นยังไม่สามารถตอบได้
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับวิธีการยึดทรัพย์กรณีของนายบุญทรงและพวก กรมบังคับคดีจะเป็นผู้ยึดหรืออายัด แต่กระทรวงพาณิชย์จะเป็นนำสืบทรัพย์ เพราะตรงนี้เป็นเรื่องของเจ้าหนี้ ที่จะต้องไปหาว่าทรัพย์อยู่ที่ใดและบอกให้กรมบังคับคดียึดให้ สืบได้แค่ไหนก็นำยึดแค่นั้น แต่ภายในอายุความ 10 ปีนับตั้งแต่วันที่กระทรวงพาณิชย์มีคำสั่งทางปกครอง หากพบมีทรัพย์สินอีกสามารถไปนำยึดได้อีก และหากมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินตามกฎหมายก็มีช่องดำเนินการ ทั้งนี้ ถ้ามีทรัพย์ไม่พอก็ยึดเท่าที่มี ส่วนกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำสืบทรัพย์จะเป็นกระทรวงการคลัง และกรมบังคับคดีจะเป็นผู้ยึดหรืออายัดทรัพย์ อย่างไรก็ตาม การยึดดังกล่าวไม่จำเป็นต้องรายงานให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือรมว.ยุติธรรมให้ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ยื่นขอทุเลาการบังคับคดีไว้ขณะนี้ ก่อนยึดทรัพย์ต้องรอคำสั่งศาลปกครองก่อนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ทราบว่า มีการยื่นเอาไว้เหมือนกัน แต่ศาลยังไม่ได้มีคำสั่ง ระหว่างนี้จึงสามารถดำเนินการยึดหรืออายัดได้ อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการยึดหรืออายัดทรัพย์ได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน ปรากฏว่า ต่อมาศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ทรัพย์สินที่ยึดไปแล้วไม่จำเป็นต้องคืน เพียงแต่ยึดเพิ่มเติมไม่ได้