xs
xsm
sm
md
lg

“องอาจ” คอนเฟิร์ม “มาร์ค” พร้อมร่วมแจงปรองดอง ไม่มีปัญหาให้คุยแค่ 10 หัวข้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ ยัน “อภิสิทธิ์” พร้อมคุยกรรมการปรองดอง ยันยินดีร่วมมือ บอกตั้ง 10 หัวข้อคุยไม่เสียหาย เชื่อไม่บังคับสามารถถกได้ตามความพร้อม ขอทุกฝ่ายมองแง่บวก ระบุ ตัวกรรมการไม่น่าเป็นประเด็นหลักเท่าความครบถ้วนของข้อมูล ยันไม่มีปัญหา

วันนี้ (11 ก.พ.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีคณะอนุกรรมการรับฟังความเห็นภายใต้คณะกรรมการอำนวยการเตรียมการปรองดอง เตรียมเชิญตัวแทนพรรคการเมืองเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อสร้างความปรองดองนั้น ว่า ทราบว่า ทางคณะอนุกรรมการจะทยอยส่งหนังสือเชิญมาตามลำดับตัวอักษรซึ่งตัวอักษร ป.ปลา ของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ลำดับตัวอักษรท้ายๆ ขณะนี้จึงยังไม่ได้หนังสือเชิญ ทั้งนี้ หากในหนังสือเชิญหัวหน้าพรรคไปหารือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็พร้อมจะร่วมพูดคุย และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปรองดอง ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมสนับสนุนการปรองดองให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองมาโดยตลอดอยู่แล้ว จึงยินดีให้ความร่วมมือเพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห้ามไม่ให้มีการถกเถียงกันและหารือแค่ในกรอบ 10 ประเด็นเท่านั้นจะถือเป็นการจำกัดการแสดงความเห็นหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า เราไม่มีประเด็นอะไรที่จะเป็นถกเถียงกันอยู่แล้ว เนื่องจากเชิญไปทีละพรรค ใครจะแสดงความเห็นอะไรก็สามารถแสดงความเห็นได้ ส่วนการตั้งประเด็น 10 ประเด็นก็ไม่ถือว่ามีอะไรเสียหาย เนื่องจากใครสนใจจะให้ข้อมูลประเด็นไหนก็อาจจะเลือกตามความพร้อม หรือมีประเด็นเพิ่มเติมที่เห็นว่าเป็นประโยชน์มากกว่าก็เสนอไป อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร คงไม่บังคับว่าเราต้องให้ความเห็นในทุกประเด็น ก็ขอให้ทุกฝ่ายมองในแง่บวกของการหารือครั้งนี้ ไม่ใช่มองเพียงแค่ว่าตั้งมา 10 ประเด็น เพื่อจะมาบังคับเรา เพราะเชื่อว่าการหารือครั้งนี้มีความตั้งใจจะรวบรวมประเด็นที่เป็นประโยชน์ของทุกๆ ฝ่ายจึงไม่มีความจำเป็นจะต้องมาจำกัดความเห็นเรา

นายองอาจ ยังกล่าวถึงรายชื่อคณะกรรมการปรองดอง ว่า ตัวบุคคลไม่น่าจะเป็นประเด็นหลักเท่าความหลากหลายและความครบถ้วนของข้อมูลที่ได้ถูกรวบรวมนั้นจะไปสังเคราะห์ให้เกิดประโยชน์ต่อการปรองดองได้มากน้อยแค่ไหน และเท่าที่ดูรายชื่อส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างความปรองดองอยู่แล้ว ตนจึงคิดว่าเรื่องตัวบุคคลไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร
กำลังโหลดความคิดเห็น