แกนนำเพื่อไทย แนะ “ประยุทธ์” เข้าใจมูลเหตุความแตกแยก เชื่อวิธีแก้ไม่ยาก แต่ถามกรรมการชุด “ประวิตร” แก้ได้จริงหรือ จวกฝ่ายปฏิบัติการไม่กล้ายอมรับความจริง หยันนายกฯ เข้าใจประชาธิปไตยดีพอหรือยัง ด้านแกนนำแดง ซัดเอาแต่พวกมีส่วนได้เสียรัฐประหารนั่ง ไร้พวกตนจะปรองดองได้ยังไง แนะดึงทุกฝ่ายร่วม หรือไม่ก็ทำผลการศึกษาปรองดองเก่ามาทำ
วันนี้ (11 ก.พ.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องการปรองดอง และต้องการสอนให้เด็กไทยได้เข้าใจและเรียนรู้ถึงความเป็นประชาธิปไตยนั้น เข้าใจความปรารถนาดี แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ควรเข้าใจถึงมูลเหตุของความแตกแยกในอดีตที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่า วิธีการแก้ไขไม่ใช่เรื่องยาก แต่คณะกรรมการปรองดองที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กำลังจะแต่งตั้งและเชิญที่ปรึกษาจากภาคส่วนต่างๆ เข้ามาร่วมด้วยช่วยกันนั้น ดูเหมือนจะสร้างสรรค์และเป็นการมีส่วนร่วม แต่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งได้จริงหรือไม่นั้น ยังคงเป็นคำถามใหญ่ที่ทุกคนรอคอยคำตอบ โดยเฉพาะคนที่เข้าใจและรู้เหตุการณ์ดี และเคยอยู่ในฝ่ายปฏิบัติการในระหว่างการชุมนุมและเกิดความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมา แต่กลับไม่กล้าออกมายอมรับความจริงกันเสียที ดังนั้น การที่จะดึงเอาคนกลางๆ อย่างนักธุรกิจ ผู้มีชื่อเสียง อาจารย์ นักวิชาการ มาร่วมประชุมกันเป็นคณะทำงานชุดใหญ่ และมานั่งแก้ปัญหา หาทางออกให้กับสังคม มันจะเป็นไปได้หรือ และจะให้ทุกฝ่ายยอมรับแบบเปิดใจกว้าง และความเป็นกลางแบบตรงไปตรงมานั้น มันจะเป็นไปได้ไหม
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ อยากฝากคำถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ ว่า เข้าใจการปกครองในระบอบประชาธิปไตยดีพอแล้วหรือยัง และท่านทราบหรือไม่ว่า ที่ประเทศไทยเรามีสภาพเศรษฐกิจที่ดีกว่าประเทศเพื่อนบ้านเราก็เพราะไทยเรามีการปกครองที่เป็นประชาธิปไตย มากว่าครึ่งศตวรรษ ถึงแม้ว่า จะลักปิดลักเปิดไปบ้างก็ตาม
ขณะที่เมื่อเวลา 15.00 น. นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงคณะกรรมการเตรียมการสร้างความปรองดอง ที่ พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ขับเคลื่อน ว่า การสร้างความปรองดองตอนแรกเห็นว่า พล.อ.ประวิตร จะให้ทหารที่ฝ่ายประชาธิปไตยมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งมาขับเคลื่อนเราก็มองว่าการปรองดองเดินหน้าได้ยากแล้ว แต่นี่ยังเอา นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเรามองว่าเป็นคู่ขัดแย้งกับฝ่ายประชาธิปไตย มาเป็นที่ปรึกษาอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองอีก เมื่อคนที่จะขับเคลื่อนการปรองดองมีแต่คนที่มีส่วนได้เสียกับการยึดอำนาจ แต่ไม่มีฝ่ายประชาธิปไตยเลยอย่างนี้ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าอย่าสนใจที่ตัวบุคคลให้มองที่ผลของงานนั้น ถ้าคนเป็นคู่ขัดแย้งมาเป็นอนุกรรมการเขาก็มีมุมมองของเขาฝ่ายเดียว ดังนั้น ก็ควรเอาคู่ขัดแย้งทั้งหมดที่มีส่วนทำให้เกิดปัญหาเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการด้วยจะดีกว่า หรือไม่เช่นนั้นก็นำผลการศึกษาที่รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายก่อนหน้านี้มาดำเนินการเสียเลย