“ประยุทธ์” เผย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งให้ช่วยกันทำงานทั้งเรื่องวันมาฆบูชา และการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ยกพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่พวกเราเสมอมา ขอช่วยกันทำความเข้าใจ แนะคนไทยนำคำสอนของศาสนามาเป็นหลักดำเนินชีวิต และทำงานเพื่อลดความขัดแย้ง
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กระทรวงอุตสาหกรรม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง หรือเทียบเท่า ว่าจากที่ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดนิทรรศการ “เย็นศิระ เพราะพระบริบาล” ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพอพระทัยในการจัดนิทรรศการดังกล่าวที่เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ ทรงมีกระแสรับสั่งว่าเป็นเรื่องที่ดีประชาชนจะได้รับทราบว่าสถาบันฯ ได้ทำหน้าที่อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ รัชกาลที่ ๙ ทรงวางรากฐานต่างๆ มากมายต่อเนื่องจากหลายรัชกาลทุกยุคทุกสมัย ต้องการให้ประชาชนเข้าใจว่าตรงนี้คือรากฐานของประเทศที่จะทำให้ประเทศมีความเข้มแข็งบนรากฐานอันแข็งแกร่ง พวกเราทุกคนก็รับสนองพระบรมราโชบายของพระองค์ท่าน ในการที่จะทำให้ศาสตร์พระราชาทั้งหมดไปสู่การขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรมในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องโครงการพระราชดำริกว่า 4 พันโครงการ รวมทั้งศูนย์พัฒนาทั้งหมด 6 ศูนย์ ซึ่งมีความแตกต่างกัน ตนเองได้กราบบังคมทูลไปว่าปัจจุบันมี 134 ประเทศ ได้นำไปใช้โดยมีการประยุกต์ใช้ให้เกิดความเหมาะสมตามภูมิศาสตร์ของประเทศนั้นๆ เรื่องเหล่านี้จึงทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงได้รับการถวายรางวัลจากสหประชาชาติว่าได้ทำคุณประโยชน์ต่อโลก เป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจของทุกคน
ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระทัยในทุกด้าน และตรัสว่าทำได้ดี พร้อมขอให้ช่วยกันทำต่อไป และทรงมีกระแสรับสั่งด้วยว่างานสำคัญต่างๆ ก็มีความก้าวหน้าเรื่อยๆ รวมทั้งรับสั่งถึงงานที่ต้องช่วยกันในระยะใกล้ คือ งานวันมาฆบูชา งานสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ ทรงรับสั่งว่าบ้านเมืองเราจะได้มีความสงบร่มเย็น พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณกับพวกเราเสมอมา ขอร้องทุกคนว่าให้ช่วยกันทำความเข้าใจ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในตอนท้ายของการให้สัมภาษณ์ว่า ให้ทุกคนมีความสุขในช่วงวันมาฆบูชา ให้สงบจิตสงบใจ อะไรที่ไม่ดีก็ขอให้เปลี่ยนแปลง เอาศาสนามาเป็นตัวนำไม่ว่าจะศาสนาใดก็ขอให้นำมาเป็นหลักในการดำรงชีวิต และทำงานก็จะทำให้ความขัดแย้งต่างๆ หมดไปด้วยหลักของศาสนา เพราะคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พิสูจน์ได้จากคำสอนของพระองค์ท่านว่าทุกอย่างทำได้จริง อย่างสิ่งที่ตนพูดทั้งหมดก็ต้องเอาหลักของศาสนามาจับด้วย เรื่องทุจริตก็ต้องมีหิริโอตัปปะ ทั้งความละอาย และความเกรงกลัวต่อบาป ถ้าวันนี้ยังไม่กลัวกันก็ช่าง ตายไปแล้วก็จะรู้วันนี้พูดได้ว่าไม่มีใครรู้ เพราะยังไม่ตาย การทำงานวันนี้ต้องใช้หลักของอริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ซึ่งทุกข์ คือปัญหา ก็ต้องหาวิธีการแก้ปัญหา หนทางเพื่อไปสู่การดับทุกข์ ไปสู่การปฏิรูปประเทศต้องคิดแบบนี้ วันนี้มี 2 อย่างที่นำมาใช้ได้โดยไม่ยุ่งยาก คือ คำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และสุภาษิตไทย ซึ่งความกตัญญูกตเวทีเป็นเรื่องของคนดี การไม่ทุจริตโกงกิน เป็นบ่อเกิดของความเจริญ สุภาษิตไทยมีมากมาย