ประธาน ป.ป.ช.แจงซื้อรถหุ้มเกราะมาแล้ว 4 คัน คันละ 2 ล้านกว่า ใช้ใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ยังไม่คิดซื้อเพิ่ม อ้างเพิ่งออกระเบียบเหตุไม่เคยมีมาก่อน แต่สถานการณ์จำเป็นต้องจัดหา ใครลงไปทำงานมีสิทธิ์ขอใช้ได้ ให้เลขาฯ ป.ป.ช.เซ็นอนุญาต
วันนี้ (9 ก.พ.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.มีประกาศระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการมีและการใช้รถยนต์หุ้มเกราะป้องกันกระสุน พ.ศ. 2560 ว่าขณะนี้ซื้อรถยนต์หุ้มเกราะมาใช้แล้วจำนวน 4 คัน และยังไม่มีแนวคิดที่จะจัดซื้อเพิ่มเติม โดยรถที่มีขณะนี้เป็นรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ 4 ประตู 3000 ซีซี ขับเคลื่อน 4 ล้อ สมรรถนะสูง หุ้มเกราะกันกระสุน และติดอุปกรณ์เพิ่มเติมใช้ใน 4 จังหวัดภาคใต้ เพราะเรามีสำนักงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส เท่านั้น ดังนั้น เมื่อซื้อมาใช้ก็เช่นเดียวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วไป คือ ต้องมีการออกระเบียบในการมีและใช้ให้ถูกต้อง ทั้งนี้ เราซื้อมาใช้ประมาณปีกว่าแล้ว แต่ระเบียบเพิ่งออกมาซึ่งเป็นไปตามปกติของการขอซื้อคุรุภัณฑ์พิเศษ ซึ่งหน่วยราชการอย่าง ป.ป.ช.ไม่เคยมีมาก่อน แต่เมื่อมีความจำเป็นในสถานการณ์เช่นนั้นก็ต้องจัดหาและดำเนินการออกระเบียบ แต่กระบวนการของการออกระเบียบกว่าจะผ่านอนุฯ กฎหมาย ผ่านขั้นตอนของกรรมการ ป.ป.ช.กระทั่งออกเป็นกฎหมายก็ต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ระเบียบจะออกมากระบวนการของการใช้นั้นได้มีการกำชับ เพราะเป็นคุรุภัณฑ์พิเศษซึ่งมีราคาสูง แต่ถือว่าไม่ได้แพงมาก คันละ 2 ล้านกว่าบาท รวมการติดอุปกรณ์ต่างๆ แล้ว
เมื่อถามว่า ระเบียบที่ออกมากำหนดตำแหน่งตั้งแต่ประธานกรรมการ กรรมการ ป.ป.ช.จังหวัดและอนุกรรมการ พนักงานเจ้าหน้าที่ ทำให้มองว่าเตรียมการเพื่อซื้อเพิ่มหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ผู้มีสิทธิ์ขอใช้รถ ดังนั้น ถ้ากรรมการหรือเจ้าหน้าที่ที่จะลงไปทำงานในพื้นที่ย่อมมีสิทธิ์ขอใช้ตามระเบียบ และในระเบียบนี้ยังเขียนครอบคลุมไปถึงหากหน่วยงานราชการอื่นจะมาขอใช้โดยมีความจำเป็นก็ขอใช้ได้ โดยมอบให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นผู้อนุญาต และมีการลงทะเบียนในเล่มขอใช้ว่าใครขอใช้และใช้อย่างไร เป็นการออกระเบียบเพื่อกำหนดผู้มีสิทธิ์ขอใช้รถหุ้มเกราะดังกล่าว รวมถึงสถานที่เก็บรักษาและผู้รับผิดชอบในการเก็บรักษา