ศาลปกครองกลาง นัดอ่านคำสั่งคดี “บุญทรง-ภูมิ” ฟ้องนายกฯ ขอถอนคำสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนปมจำนำข้าว พรุ่งนี้ จับตากำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ระงับจ่ายรวม 4 พันล้านก่อนมีคำพิพากษาหรือไม่ ชี้ไม่ว่าผลมาทางไหนก็อาจเป็นแนวทางต่อคดี “ยิ่งลักษณ์” ฟ้องด้วย
วันนี้ (9 ก.พ.) ที่สำนักงานศาลปกครองกลาง มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (10 ก.พ.) เวลา 13.30 น. ศาลปกครองกลางได้นัดอ่านคำสั่งในคดีที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 4 คน กรณีขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ 453/2559 ลงวันที่ 19 ก.ย. 59 ที่ให้นายบุญทรงชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่ รมว.พาณิชย์ ได้อาศัยโอกาสในการปฏิบัติหน้าที่แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ โดยชอบด้วยกฎหมายทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และคดีที่นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 4 คน เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ที่ 240/2558 ลงวันที่ 3 เม.ย. 58 แต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดและคำสั่งที่ 453/2559 ลงวันที่ 19 ก.ย. 59 ให้นายภูมิชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากเหตุขณะดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ กระทำการผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ
ทั้งนี้ คำสั่งที่จะมีการอ่านดังกล่าวเป็นคำสั่งว่าศาลจะกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา คือ สั่งทุเลาการบังคับใช้คำสั่งกระทรวงพาณิชย์ที่ให้นายบุญทรง และนายภูมิ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตามที่บุคคลทั้งสองยื่นร้องขอ และองค์คณะศาลปกครองกลางคณะพิเศษได้เรียกคู่กรณีทั้งสองคดีไต่สวนเพื่อหาข้อมูลในการพิจารณาไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2559 หรือไม่ หากศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้คำสั่งกระทรวงพาณิชย์ กระบวนการของกระทรวงพาณิชย์ในการเรียกค่าสินไหมทดแทนจากนายบุญทรง และนายภูมิก็จะหยุดไว้ก่อน นายบุญทรงและนายภูมิก็ยังไม่ต้องมีการจ่ายชดใช้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาคดีถึงที่สุด
สำหรับค่าสินไหมทดแทนที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเห็นชอบให้นักการเมือง และข้าราชการรวม 6 คนต้องชดใช้ค่าเสียหายจากการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ มียอดเงินรวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นมติให้นายบุญทรงชดใช้ค่าเสียหาย 1,770 ล้านบาท นายภูมิ สาระผล ชดใช้ค่าเสียหาย 2,300 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คำสั่งศาลที่จะมีออกมาไม่ว่าจะออกมาในทางใดมีความน่าสนใจ เพราะในศาลปกครองกลาง ยังมีคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รมว.คลัง รมช.คลัง และปลัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 กรณีขอเพิกถอนคำสั่งที่ 1351/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากเหตุขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติปล่อยให้เกิดทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดแก่ราชการตามอำนาจหน้าที่เป็นเหตุให้กระทรวงการคลังเกิดความเสียหายมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาทเศษ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ขอให้ศาลกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาคือให้ทุเลาการบังคับใช้คำสั่งเรียกให้ชดใช้ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา และศาลได้เรียกไต่สวนไปแล้วเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้น หากศาลกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวให้แก่นายบุญทรง และนายภูมิ ก็อาจเป็นที่คาดการณ์ได้ว่าในคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็น่าจะมีคำสั่งออกมาในแนวทางเดียวกัน