xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ตรวจฯ ลงพื้นที่ อ.พาน สอบปัญหากรรมสิทธิ์ที่ดินทับซ้อนที่ดินราษฎร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้ตรวจฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบ อ.พาน ปัญหากรรมสิทธิ์ที่ดินทับซ้อนที่ดินราษฎร หลังชาวบ้านบ้านดงเจริญร้องเรียน ชี้อาจมีบางส่วนทับซ้อนที่สาธารณะ มอบอบต.สำรวจรังวัดใน 90 วัน ประสานระงับดัดแปลงพื้นที่ให้คงสภาพแวดล้อมเดิม ให้หน่วยงานบูรณาการแก้ปัญหา

วันนี้ (9 ก.พ.) พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน กรณีชาวบ้านบ้านดงเจริญ ต.หัวง้ม อ.พาน จ.เชียงราย กว่า 120 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากมีนายทุนเข้ามาแสดงสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดินทับซ้อนกับที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของชาวบ้านกว่า 4,000 ไร่ รวมทั้งได้ทำการปรับสภาพพื้นที่เป็นคันคลองสูง ส่งผลกระทบให้เวลาฝนตกจะเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ทำให้พืชผลในที่ดินทำกินของราษฎรเสียหาย

พล.อ.วิทวัสกล่าวว่า จากการตรวจสอบพื้นที่เพื่อดูสภาพข้อเท็จจริง รวมถึงประชุมร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายศักดิ์ชาย วงศ์กนิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางภัทราวดี ปัญญาบุญ นายอำเภอพาน นายเชาวลิต สามห้วย เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงราย นายชัยวัฒน์ ตุนทกิจ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงราย สาขาพาน นายวินัย เครื่องไชย นายกอบต.หัวง้ม พบว่าเดิมที่ดินเป็นของพันเอกนายวรการบัญชา (บุญเกิดสุตันตานน) ที่ได้แจ้งการครอบครองเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2498 ต่อมาวันที่ 4 ม.ค. 2514 ได้มีการนำรังวัดออกฉโนดที่ดินเลขที่ 847 ต.หัวง้ม อ.พาน จ.เชียงใหม่ จำนวนเนื้อที่ 4,106-3-54 ไร่ จากนั้นที่ดินแปลงดังกล่าวได้มีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในหลายคราว จนกระทั่งมีการจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินประเภทแบ่งกรรมสิทธิ์รวมเป็นฉโนดที่ดินใหม่ รวม 17 แปลง เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2535 และได้มีการเปลี่ยนมือทั้งจากการซื้อขายและจากการขายทอดตลาด ซึ่งปัจจุบันโฉนดที่ดินทั้ง 17 แปลง อาจมีบางส่วนทับซ้อนกับที่สาธารณะ เช่น หนองน้ำ เหมือง ฝาย โบราณสถานและวัดร้างจำนวน 12 แห่ง จากปัญหาดังกล่าวจึงได้มอบให้ อบต.หัวง้ม ดำเนินการเดินสำรวจตรวจสอบและรังวัดให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน เพื่อดูข้อเท็จจริงว่าที่ดินส่วนใดเป็นที่สาธารณะ และให้รีบประสานสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงราย สาขาพาน รวมทั้งขอให้ฝ่ายปกครองช่วยประสานและเจรจากับเจ้าของที่ดินที่ครอบครองที่ดินในปัจจุบัน ระงับการดัดแปลงหนองน้ำ หรือพื้นที่อื่นใดให้มีสภาพที่ต่างไปจากสภาพแวดล้อมเดิมเพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนหรือราษฎรได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งให้หน่วยงานเร่งกันบูรณาการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะและส่วนรวมต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น