รองนายกรัฐมนตรี เผยทีวีพูลถ่ายทอดสดพระราชพิธีสถาปนา “สมเด็จพระสังฆราช” 12 ก.พ.นี้ ใช้พระนาม “สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ” ชมมีวัตรปฏิบัติที่เคารพนับถือ สมถะ ย้ำแก้รัฐธรรมนูญใกล้เสร็จแล้ว ขอให้นิ่งก่อนเปิดเผย
วันนี้ (7 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 17.00 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดสถาปนา สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ว่าขั้นตอนหลังจากนี้จะมีพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ในเวลา 17.00 น.วันที่ 12 ก.พ. โดยจะมีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย จากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามแบบการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินไปถวายพระสุพรรณบัฏ หรือชื่อสมเด็จพระสังฆราชที่จารึกลงบนแผ่นทอง ถวายพัดยศ เครื่องสมณบริขาร หรือเครื่องยศสมเด็จพระสังฆราช และอาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ถือเป็นอันเสร็จพิธี
รองนายกฯ กล่าวว่า สำหรับสมเด็จพระสังฆราชที่จะได้รับการโปรดสถาปนาครั้งนี้เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่มีวัตรปฏิบัติเป็นที่เคารพนับถือ เลื่อมใส สมถะ อย่างที่มีการพูดถึงกัน เป็นศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธามากของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ส่วนพระนามของสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 จะใช้พระนามว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ และต่อท้ายด้วยชื่อเดิมซึ่งเป็นพระนามของสมเด็จพระสังฆราชตั้งแต่สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 1 ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จนถึงองค์ที่ 18 ส่วนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 นั้น เหตุที่พระนามแตกต่างจาก 18 องค์ที่ผ่านมาเนื่องจากในหลวงรัชกาลที่ ๙ โปรดสถาปนาให้มีชื่อเดิมก่อนที่จะเป็นสมเด็จพระสังฆราช
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชามติ ตามข้อสังเกตพระราชทานว่า การดำเนินการขณะนี้จวนจะเสร็จแล้ว ยืนยันว่าทันตามกรอบเวลา 30 วัน ในวันที่ 18 ก.พ. ขณะนี้บางมาตราที่นิ่งแล้วได้ส่งให้กองอาลักษณ์เขียนไปพลางก่อน ส่วนมาตราที่ต้องดูถ้อยคำเพิ่มเติมนั้นยังไม่เขียน สำหรับการเปิดเผยเนื้อหาที่แก้ไขนั้น ขอดูจังหวะเวลาให้แน่ใจว่าทุกอย่างนิ่งแล้วก่อนเปิดเผยในกรอบ 30 วัน