ผู้ให้เช่า-ผู้ค้าเจเจกรีนฟ้องศาลปกครอง ขอถอนคำสั่ง กทม.ไล่พ้นพื้นที่

“บ.วีมัลติมีเดีย” ผู้ให้เช่าร้านค้าจตุจักรกรีน และผู้ประกอบการ ยื่นศาลปกครอง ฟ้อง กทม.หลังเตรียมไล่รื้อผู้ค้า 5 ก.พ. ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่ง พร้อมขอให้ กทม.ต่อสัญญาอีก 2 ปี ยันไม่ได้ค้างค่าเช่าแค่รอระหว่างต่อสัญญาใหม่ ระบุพร้อมจ่ายทันทีที่เซ็นให้เช่าต่อ

วันนี้ (3 ก.พ.) ที่สำนักงานศาลปกครอง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยตัวแทนผู้ประกอบการร้านค้า แผงค้าในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรกรีน ยื่นฟ้อง ผอ.ตลาดนัด กทม. ประธานกรรมการตลาดนัด กทม. และผู้ว่าฯ กทม.เป็นผู้ถูกฟ้องที่1-3 ฐานปฏิบัติหน้าที่ในทางละเมิด ก่อให้เกิดความเดือดร้อนและเสียหายต่อประชาชน จากกรณีกองอำนวยการตลาดนัด กทม.จะดำเนินการไล่รื้อผู้ค้าเดิมให้ออกไปเพื่อนำไปสู่การเจรจาเช่าแผงค้ากันใหม่ โดยขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งไล่รื้อผู้ประกอบการร้านค้า แผงค้า ในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรกรีนทั้งหมด และขอให้ กทม.ต่ออายุสัญญาเช่าพื้นที่เป็นเวลา 2 ปี จนถึงวันที่ 12 ส.ค. 2561 และหากไม่สามารถปฏิบัติตามที่ขอ ให้ศาลสั่งให้ กทม.จ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ประกอบการร้านค้า แผงค้า เป็นเงิน 136 ล้านบาท พร้อมกันนั้นยังได้ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพราะ ผอ.ตลาดนัด กทม.เตรียมจะเข้ายึดพื้นที่ในวันที่ 5 ก.พ.นี้

โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า ที่ผ่านมา บริษัท วีมัลติมีเดียฯ เข้าเช่าพื้นที่ทำตลาดนัดจตุจักรกรีน ต่อจาก กทม.ซึ่งเช่าที่จากมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และให้ผู้ประกอบการร้านค้า แผงค้ารายย่อยเช่าช่วงต่อ โดยสัญญาเช่าเดิมที่ทางบริษัททำไว้กับตลาดนัด กทม.นั้นสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2559 ที่ผ่านมาทางบริษัทได้ขอต่อสัญญาเช่าจาก กทม.แล้วตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. 2559 แต่ขณะนั้น กทม.ยังอยู่ระหว่างการหารือขอเช่าพื้นที่ต่อกับมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ และเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2559 กทม.ก็ได้ทำหนังสือยืนยันกับทางบริษัทฯ แล้วว่าจะต่อสัญญาเช่า แต่เมื่อมีการเปลี่ยนผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ก็มีการยกเลิกข้อตกลงทั้งหมด และมีการปิดประกาศให้ผู้ประกอบการร้านค้า แผงค้า ที่ต้องการเช่าพื้นที่ไปขึ้นทะเบียนและเช่าตรงกับทางตลาดนัดของ กทม.แทน จึงทำให้ผู้ประกอบการร้านค้า แผงค้า เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก กทม.จึงมาฟ้องต่อศาลปกครองในวันนี้

ด้านตัวแทนบริษัท วีมัลติมีเดียฯ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการร้านค้า แผงค้า ที่เช่าช่วงต่อจากบริษัทฯ ประมาณ 900 ราย โดยทาง กทม.ให้เหตุผลในการไล่รื้อและยึดพื้นที่ว่าเนื่องจากทางบริษัทยังค้างค่าเช่าพื้นที่ 5 เดือนเป็นจำนวน 3.8 ล้านบาท เรื่องดังกล่าวทางบริษัทไม่ได้ค้างค่าเช่า แต่ที่ผ่านมารอความชัดเจนในการต่อสัญญาเช่าจาก กทม. โดยค่าเช่าที่ กทม.อ้างว่ายังค่าค้างอยู่ก็เป็นค่าเช่าที่อยู่ระหว่างช่วงต่อสัญญาเช่าพื้นที่ จำนวน 5 เดือนนับตั้งแต่สิ้นสุดสัญญาเก่าเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2559 เดือนละ 7.6 แสนบาท ทั้งนี้ หากมีการลงนามในสัญญาเช่าก็จะจ่ายค่าเช่าจำนวน 3.8 ล้านบาททั้งหมด