ผู้ตรวจฯ รออ่านคำแจง “ศานิตย์-ไทยเบฟ” ยันปม “ธีรวัฒน์” ไม่จบแม้ รธน.ใหม่ไร้อำนาจสอบ

รักษาการประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน รอ ผบช.น.และไทยเบฟ ส่งหนังสือแจงปมนั่งที่ปรึกษาวันนี้ เตรียมพิจารณาใน 7 วัน ยังตอบไม่ได้ฟันเลยหรือไม่ ต้องดูเอกสารก่อน รับหากรรมการสอบ “ธีรวัฒน์” ละเมิดจริยธรรมยาก แต่ยันเรื่องไม่จบแม้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่

วันนี้ (3 ก.พ.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รักษาการประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงภายใน 7 วัน กรณีมีรายได้จากการเป็นที่ปรึกษาบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในอัตราเดือนละ 5 หมื่นบาท ว่าขณะนี้ผู้ตรวจฯ รอหนังสือชี้แจงกลับมาของ พล.ต.ท.ศานิตย์ และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะครบกำหนดและส่งหนังสือชี้แจงกลับมาภายในวันนี้ (3 ก.พ.) เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วผู้ตรวจฯ ก็จะดำเนินการพิจารณาภายใน 7 วัน ส่วนการพิจารณาจะแล้วเสร็จหรือมีมติในวันที่พิจารณาเลยหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากต้องดูข้อมูลและเอกสารประกอบการพิจารณาก่อน ถ้าข้อมูลครบถ้วนหรือถ้าไม่จำเป็นข้อขอข้อมูลใดมาประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมก็สามารถวินิจฉัยได้เลย อย่างไรก็ตาม การพิจารณานั้นต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ ไม่เร่งรัดจนเกินไป

“ผมเข้าใจว่าสังคมก็คงมองเรื่องของการละเมิดจริยธรรม เรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ถ้าเป็นเรื่องผิดจริยธรรมก็คงไม่ดี ทั้งนี้ต้องดูว่า พล.ต.ท.ศานิตย์จะตอบมาว่าอย่างไร และข้อเท็จจริงอื่นเป็นอย่างไร ซึ่งก็ต้องสอบถามทางบริษัท ไทยเบฟ รวมทั้ง ป.ป.ช.ว่ามีคำร้องเรียนอย่างนี้ที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.ท.ศานิตย์ที่ ป.ป.ช.หรือไม่ ผมต้องขอดูก่อนว่าข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ ถ้าข้อมูลครบถ้วนสามารถวินิจฉัยได้ ไม่ต้องขอข้อเท็จจริงอื่นใดมาประกอบก็สามารถวินิจฉัยได้” รักษาการประธานผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าว

นอกจากนี้ รักษาการประธานผู้ตรวจการแผ่นดินยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินชี้มูลให้ กกต.ตรวจสอบจริยธรรมนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กรรมการการเลือกตั้ง ว่าทางผู้ตรวจฯ ไม่ได้มีการสอบถามความคืบหน้ามาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ได้ติดตามว่าคืบหน้าไปอย่างไร กระบวนการต้องตั้งคณะกรรมการโดยผู้บังคับการก็คือ ประธาน กกต.ที่จะต้องหากรรมการมาสอบข้อเท็จจริงซึ่งเป็นหลักธรรมดาของผู้ที่อยู่ในตำแหน่งระดับสูง การจะหาผู้มาเป็นกรรมการสอบไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การที่ระยะเวลาผ่านไปและในอนาคตที่อำนาจผู้ตรวจฯ ในเรื่องจริยธรรมจะเปลี่ยนไปนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบ เพราะไม่ว่าผู้ตรวจฯ จะไม่มีอำนาจเรื่องจริยธรรมแต่อย่างไรก็ตาม กรณีการละเมิดจริยธรรมที่ร้ายแรงก็จะต้องถูกส่งไปที่ ป.ป.ช.อยู่ดี ซึ่งจะไม่หายไปกับการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่