หัวหน้าประชาธิปัตย์ ชี้ปัญหาตำรวจถ้าระบบไม่ได้ก็จะวนเวียนกลับมา หนุนใช้ ป.ย.ป.เป็นเจ้าภาพหลักปรองดองงานจะเดินเร็วขึ้น โต้เพื่อไทย ยันปมไม่ได้เกิดจากคนแพ้เลือกตั้ง มีแต่ตอนที่ตนโดนแดงถล่มหลังรับตำแน่งนายกฯ - ค้านคนของรัฐบาลไปนั่งกรรมการสภาวิชาชีพสื่อ ห่วงขึ้นทะเบียนนำไปสู่การปิดปาก เตือนผู้มีอำนาจตระหนักไม่ได้เขียนกฎหมายเพื่อรัฐบาลเดียว
วันนี้ (2 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การนำมาตรา 44 มาใช้กับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจมาใช้หลายครั้ง ตนเคยพูดแล้วว่านี่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ถ้าระบบไม่ได้รับการแก้ไขก็จะต้องวนเวียนกลับมา ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เพื่อเดินเครื่องเวิร์กชอปงานปรองดองนั้น หากมีการยุบคณะกรรมการต่างๆ ที่ทำงานด้านปรองดองจริงแล้วให้ ป.ย.ป.เป็นหลัก ทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะเป็นเอกภาพและเดินได้รวดเร็วชัดเจน ส่วนใครอยากมีส่วนร่วมอะไร อย่างไร ก็ให้ไปที่นั่นจะดีที่สุด เพราะว่าถ้ามีเจ้าภาพหลายเจ้าภาพคงจะสับสนและไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม การที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมาเกิดขึ้นเพราะมีคนแพ้เลือกตั้ง ขอยืนยันว่าไม่จริง หากย้อนกลับไปดูเลือกตั้งเสร็จทุกครั้งบ้านเมืองเรียบร้อย มีครั้งเดียวที่มีการเปลี่ยนรัฐบาลต่อมามีการต่อต้านตั้งแต่วันแรก คือวันที่ตนเป็นนายกฯ ออกจากสภายังลำบาก เพราะว่ามีการนำคนมาขว้างปา จุดไฟ ราดน้ำมันต่างๆ
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า สำหรับความพยายามควบคุมสื่อนั้น สื่อมวลชนไม่ขัดข้อง แต่ว่าหลักการที่เราใช้มาตลอดนั้นคือ เราทำอย่างไรให้องค์กรสื่อสามารถกำกับดูแลตัวเองได้ มีความศักดิ์สิทธิ์ ตัวองค์กรมีเขี้ยวเล็บ อย่างไรก็ตาม สมัยที่เป็นรัฐบาลก็มีการเสนอกฎหมายองค์กรวิชาชีพ แต่สิ่งที่เราไม่ได้ทำ คือ 1. เราไม่เคยเสนอให้คนของรัฐบาลไปนั่งเป็นกรรมการด้วย เพราะเราเห็นว่ามันไม่ถูกต้องตามหลักการ และ 2. อำนาจ เป็นเรื่องของการพิจารณาในเรื่องของจรรยาบรรณ โทษก็เป็นกรอบที่จะต้องว่ากันไป แต่ระบบการขึ้นทะเบียน การเพิกถอนใบอนุญาตนั้น อาจจะนำไปสู่การปิดปากและสิทธิเสรีภาพ
“คนที่เป็นผู้มีอำนาจในขณะนี้จะบอก ขออย่าห่วง ไม่แทรกแซง คือเราไม่ได้เขียนกฎหมายเพื่อรัฐบาลเดียว เราเขียนกฎหมายเพื่อเป็นระบบถาวร เพราะฉะนั้นวันข้างหน้า และในอดีตเราก็เคยประสบมาแล้ว เวลาเราเจอรัฐบาลที่ต้องการจะมาแทรกแซงสื่อ เพราะสื่อไปตรวจสอบเขา ถ้าเราไปเปิดช่องให้เขาสามารถเข้ามาแทรกแซงได้ เราก็ทำลายกลไกที่สำคัญในการตรวจสอบถ่วงดุลในสังคมไป ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องควรทบทวนเรื่องดังกล่าว” นายอภิสิทธิ์กล่าว