ข่าวปนคน คนปนข่าว
“ท่านรองมือฉก” สุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ผู้สร้างผลงานกระเดื่องโลก ขโมยภาพวาดจากโรงแรมแห่งหนึ่งที่แดนปลาดิบ แม้จะรอดคุกเฉียดฉิว หลังหน่วยงานภาครัฐของไทยระดมกันช่วยเจรจา จนทางโรงแรมไม่ติดใจเอาความ อัยการญี่ปุ่นจึงชักเรื่องกลับ ได้ยินว่า “ท่านรอง” กลับถึงไทยโดยสวัสดิภาพแล้ว ก่อนร่อนจดหมายเปิดใจมาเมื่อวาน ขอยึดมาตรฐานคนญี่ปุ่นลาออกจากราชการ สารภาพสิ้นว่า ร่ำสุรากับเพื่อนสมัยเรียน จน “เมาขาดสติ” ก่อนก่อการอุกอาจ หยิบฉวยภาพวาดมาเป็นของตัวเอง
ต้นสังกัด กระทรวงพาณิชย์ คงจับกระแสสังคมได้อยู่ คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตั้งขึ้นไม่กี่วันก่อน ร่อนรายงานสรุปออกมาเรียบร้อย “ชี้มูลความผิดร้ายแรง” มีโทษแค่ “ปลดออก - ไล่ออก” เท่านั้น ถึงขั้นนี้ถือว่ารอดพ้นข้อครหา “มวยล้ม” ไปได้ แต่ตามกฎ คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ยังต้องตั้งกรรมการมาสอบวินัย เพื่อชี้ว่า “รองฯสุภัฒ” ที่สถานะตอนนี้คือ “บุคคลที่ถูกปลดออกจากราชการ” ยังได้เงินบำเหน็จ-บำนาญเต็มจำนวน แต่ถ้าผลสอบเชือดให้ “ถูกให้ออกจากราชการ” อันนี้อดบำเหน็จ-บำนาญทุกกรณีนะจ๊ะ
อย่างที่ทราบ “คดีสินบนโรลส์-รอยซ์” ที่จ่ายให้กับ “เจ้าหน้าที่รัฐ” เพื่อหวังขายเครื่องยนต์ให้กับ “การบินไทย” มี 3 ช่วงเวลา แต่ที่สปอตไลท์ส่องเป็นพิเศษ ก็ช่วงสุดท้ายที่คาบเกี่ยวกับรัฐบาลไทยรักไทย มีนายกฯเบอร์ใหญ่อย่าง ทักษิณ ชินวัตร เหตุที่ช่วงนี้ถูกจับจ้องแบบเน้นๆ มากกว่าช่วงอื่นก็เป็นเพราะ “อายุความ” ยังเหลือ หากสืบสาวหา “ไอ้โม่ง” ได้ก็มีลุ้น จะเห็นการลงทัณฑ์ตามกฎหมายบ้านเมืองเป็นน้ำเป็นเนื้อมากกว่าช่วงอื่น อีกทั้ง “ตัวละคร” ที่เกี่ยวข้องก็ยังมีบทบาทอยู่ในแวดวงการเมืองในปัจจุบัน แม้จะเป็นยุครัฐบาล คสช. ก็ตาม ชื่อที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ ก็ไม่พ้นบรรดาคนที่มีตำแหน่งแห่งที่อันเกี่ยวเนื่องกับ “ขุมทรัพย์การบินไทย” ในช่วงที่เกิดเรื่อง ไล่ตั้งแต่ ทนง พิทยะ ประธานบอร์ดการบินไทย สุริยะ จึงรุ่งเรื่องกิจ รมว.คมนาคม จนถึง กนก อภิรดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ หรือ “ดีดีการบินไทย” ที่คงเขวี้ยงงูไม่พ้นคอ
แต่หากใครเป็น “คอการเมือง” คงคลับคล้ายคลับคลาว่า ช่วงหนึ่งการบริหารงานในการบินไทยมีอะไรพิลึกพิลั่นอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะตัวผู้บริหารคนสำคัญ หรือ “ดีดีการบินไทย” ที่ไม่ได้มีแค่หนึ่ง แต่กลับมี “ดีดีเงา” ที่ว่ากันว่าเป็น “ตัวจริง” ที่ส่งตรงมาจาก “บ้านใหญ่” ที่มีอำนาจคร่อม “ดีดีกนก” อีกที ย้อนความไปถึงช่วงที่มีการเปลี่ยนตัว รมว.คมนาคม จาก “เสี่ยสุริยะ” เมื่อเดือนสิงหาคม 2548 มาเป็น “เสี่ยเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล ที่มารับไม้ต่อ ก่อนถึงยึดอำนาจเมื่อเดือนกันยายน 2549 โดยหลังจากที่ “เสี่ยเพ้ง” มานั่งคุมกระทรวงหูกวางแค่สัปดาห์เดียว “บอร์ดการบินไทย” ตอนนั้นได้มีมติแต่งตั้ง สมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานบอร์ดการบินไทย ให้เป็น “ประธานกรรมการบริหาร คณะทำงานบริษัทการบินไทย” โดยใช้ข้ออ้างว่าให้ “สมใจนึก” เข้ามาช่วยกู้วิกฤติการบินไทยที่ขาดทุนต่อเนื่องมานับสิบปี ... อันนี้แค่ไล่ไทม์ไลน์ให้ดูเฉยๆ ส่วนจะเกี่ยวกับ สินบนโรลส์-รอยส์” หรือไม่ อย่างไร ป.ป.ช.-สตง. คงมีข้อมูลอยู่ในมือแล้ว
งวดเข้ามาทุกทีกับ “คดีครูจอมทรัพย์” หรือกรณี จอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครู ชาว จ.สกลนคร ที่อ้างว่าตัวเองเป็นแพะในคดีขับรถยนต์ชนคนเสียชีวิตเมื่อปี 2548 จนต้องติดคุกติดตาราง เมื่อได้รับอภัยโทษก็ได้ร้องกับกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้ช่วยรื้อฟื้นคดี ตาม พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ฯ จนถึงขณะนี้ก็ยังคงซับซ้อนซ่อนเงื่อน ไม่มีใครกล้าฟันธง ต้องรอนู้น 8 - 10 กุมภาพันธ์ ที่ศาลนัดสืบพยาน รื้อไม่รื้อน่าจะรู้ช่วงนั้น ซึ่ง “พยานสำคัญ” ยืนยันว่าจะเดินทางไปศาลตามหมายนัดแน่นอน ล่าสุด ทางกระทรวงยุติธรรมก็ได้ส่ง รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่เป็นของ “ครูจอมทรัพย์” ไปตรวจสอบสภาพรถที่ กรมการขนส่งทางบก ผลปรากฏว่า เลขเครื่องยนต์-เลขตัวรถตรงกับเลขที่จดทะเบียนไว้ทุกประการ สภาพรถปกติ ไม่มีร่องรอยการดัดแปลง ตามที่เคยมีคนกล่าวหา
หลังๆ มาดู “ฝ่ายตำรวจ” จะเงียบๆ ไป หลังเคยร้องแรกแหกกระเฌอว่ามี “ทีเด็ด” เปิดตัว อดีต ส.ว.นครพนม ออกมา แต่ฟีดแบ็กแป้กไม่เป็นท่า ต่างจากฝั่งครูจอมทรัพย์ ที่มี พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ถือหางอยู่ ที่ดูมั่นอกมั่นใจกับ “หลักฐานใหม่” ที่ยังไม่เผยไต๋ออกมา แต่ก่อนเจอกันที่ศาล ก็มีแมตซ์อุ่นเครื่อง ระหว่าง “กระทรวงยุติธรรม-ตำรวจ” ที่นัดกันหารือเรื่องคดีนี้ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ เผยไต๋-กลบไต๋กันยังไง ต้องติดตาม.