xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ไม่หนักใจไทยอันดับโกงหล่น สั่งดูเหตุเพื่ออุดรอยรั่ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกฯ ไม่หนักใจอันดับค่าดัชนีคอร์รัปชันโลกของไทยหล่นฮวบ ชี้ คะแนนดิบตกแค่ 3 แต้ม มีชาติเพิ่ม แถมเอาข้อมูลไม่เกี่ยวกับไทยมาประเมิน ยันไม่ละเลยจุดอ่อน สั่งดูเหตุเพื่ออุดรอยรั่ว สร้างความเข้าใจ รณรงค์ให้แก้ แนะพวกหยิบโจมตีคิดให้ดี ชูภาพลักษณ์ติดสินบน - ให้ตำแหน่งหาประโยชน์ดีขึ้น

พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ได้ประกาศค่าดัชนีคอร์รัปชัน CPI ประจำปี 2559 โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับ 101 จากที่เมื่อปีที่แล้วอยู่ในอันดับที่ 76 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด และไม่หนักใจที่ผลออกมาเป็นเช่นนี้ เพราะแม้ดูเหมือนว่าอันดับจะเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่เมื่อพิจารณาคะแนนดิบ จะพบว่า ไทยมี 35 คะแนน ลดลงจากปีที่แล้วที่ได้ 38 เพียง 3 คะแนน ประกอบกับจำนวนประเทศที่ถูกนำมาพิจารณามีมากขึ้นถึง 176 ประเทศ จากเดิมมีเพียง 168 ประเทศ และหลายประเทศมีคะแนนเท่ากัน ทำให้อันดับของไทยขยับลงไป นอกจากนี้ การคิดคะแนนนั้นได้นำข้อมูลมาจากแหล่งต่างๆ ถึง 13 แห่ง แต่เกี่ยวข้องกับไทยเพียง 7 - 8 แห่ง นอกนั้นไม่เกี่ยวข้อง แต่นำมาสรุปด้วย เช่น ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งแอฟริกา เป็นต้น

พลโท สรรเสริญ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีก็ไม่ละเลยที่จะพิจารณาถึงเรื่องที่เป็นจุดอ่อน เช่น ภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐในสายตาของนักธุรกิจเกี่ยวกับการจ่ายสินบนนำเข้า ส่งออก และการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งมีคะแนนลดลง โดยได้กำชับไปยังทุกหน่วยงาน ว่า จะต้องไปดูว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา และหาทางแก้ไขเพื่ออุดรูรั่วให้ได้อย่างเด็ดขาด รวมทั้งเน้นการสร้างความเข้าใจกับนักธุรกิจถึงมาตรการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาล และรณรงค์ให้ทุกฝ่ายทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ภาคเอกชน และ ประชาชน ลงมือแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างจริงจัง ไม่เพียงแต่คิดหรือพูด แต่ต้องไม่ยอมให้มีการรับสินบน ช่วยกันสอดส่องไม่ให้ใครกล้าโกง และไม่ปล่อยให้เป็นภาระของรัฐบาล หรือใครคนหนึ่งคนใด เพื่อตัดวงจรอุบาทว์ของปัญหา

“สำหรับผู้ที่ต้องการใช้เรื่องนี้สร้างกระแสโจมตี หรือลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล อยากให้ไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะจะส่งผลเสียและสร้างความบอบช้ำต่อประเทศโดยรวม โดยยืนยันว่า 2 ปีกว่าที่ผ่านมา รัฐบาลทำงานอย่างหนัก เพื่อต่อสู้กับปัญหา โดยสถานการณ์คอร์รัปชันเมื่อสิ้นสุดปี 59 ซึ่ง ม.หอการค้าไทย ได้สำรวจการรับรู้ของประชาชนในประเทศ พบว่า ดีขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 ปี ซึ่งสวนทางกับการประกาศขององค์กรต่างชาติ และเมื่อพิจารณาข้อมูลโดยละเอียดแล้ว จะเห็นว่า ไทยมีทั้งคะแนนที่ดีขึ้น และลดลง ในแต่ละตัวชี้วัด โดยตัวชี้วัดที่ดีขึ้น คือ ภาพลักษณ์เรื่องการติดสินบนและคอร์รัปชันที่ประเมินโดย IMD และภาพลักษณ์เรื่องการใช้ตำแหน่งหน้าที่ของรัฐหาประโยชน์ส่วนตัวของ World Justice Project Rule of law เป็นต้น” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น