นายกรัฐมนตรี ชี้ ประชาธิปไตยต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ แก้ไขให้เสียงส่วนน้อย อย่าเอาปัญหาบางจุดมาจี้ เห็นต่างได้ แต่ต้องช่วยรัฐนำไปสู่การปฏิบัติ ถ้าไม่ยอมกันก็ไปไม่ได้
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 17.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ ว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย คือ เสียงส่วนใหญ่และเสียงส่วนน้อย คนที่ได้เสียงส่วนใหญ่ จึงมีความต้องการ ดังนั้น ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ เสียงส่วนน้อยก็ต้องฟังเขาไว้ และดูแลแก้ไขให้เขา ไม่ใช่ว่าเดือดร้อนแล้วทำไม่ได้ ถ้าคิดกันแบบนี้ก็ทำไม่ได้ทั้งหมด ไม่มีอะไรได้มาทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าตรงนี้เสีย และสิ่งที่ได้มาเป็นสิบเท่าของตรงที่เสีย เราก็ต้องดูแลตรงที่เสีย เพื่อให้สิบเท่าได้ประโยชน์ ไม่ใช่มองว่าตรงนี้ติด ร้อยเท่าก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา อย่าเอาปัญหาบางจุดมาจี้ ไม่มีทางที่คนทั้งหมดจะเห็นชอบร่วมกัน เห็นต่างได้แต่ต้องช่วยรัฐบาลในการนำสู่การปฏิบัติ ถ้าสอนคนแบบนี้ ประเทศก็จะเจริญไปข้างหน้า การพัฒนาจะไม่ติดขัด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนต้องการแก้ปัญหา แต่ไม่ยอมอะไรกันเลย ก็ไปไม่ได้ ตนจะไปทำอะไรได้ ตนไม่อยากบังคับคน ถึงแม้มีอำนาจเด็ดขาด แต่ก็ไม่ได้มีมากมาย ใช้เท่าที่จำเป็น ตนสั่งคนให้เดือดร้อนไม่ได้ เพราะประชาชนเป็นคนของเรา สื่อก็ต้องช่วยรัฐบาลว่ามีแนวคิดเช่นนี้ วันหน้าจะได้ไม่ถูกบิดเบือน ถ้าวันนี้ไม่ให้รัฐบาลนี้ทำ วันหน้าก็เกิดขึ้นอีก ทุกคนเจอปัญหามาตลอดหลายสิบปี มีโอกาสทำร่วมกันวันนี้ ประชาชนต้องเข้าใจ ซึ่งการแสดงออก และการทำความเข้าใจของข้าราชการทุกระดับ รวมถึงภาคประชาชน และภาคสังคมต้องไปด้วยกัน ตรงไหนได้มากก็ตรงนั้น ให้เสียในส่วนน้อย ตนจะดูแลให้ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่ ไม่อย่างนั้นก็ติดหมด ทำอะไรไม่ได้
“ประชาธิปไตยคืออะไรล่ะ เวลาเลือกตั้งขึ้นมาก็ฟังเสียงส่วนใหญ่ คะแนนเสียงมากก็ชนะทุกที ถูกทุกอย่างหรือไง พอเวลาอย่างนี้ไม่ให้ พอจะทำอะไรที่เกิดประโยชน์ก็บอกว่าไม่ได้ แต่เวลาเลือกตั้งก็ให้เขาหมด ใครให้อะไรมาก็ให้เขาหมด มันไม่ใช่ ต้องคิดใหม่” นายกฯ กล่าว
