อดีตบิ๊กการบินไทย ยื่นหนังสือ “ประยุทธ์” งัด ม.44 สอบ ดีดีการบินไทย ออกวีซ่าเอื้อประโยชน์ พร้อมรื้อปมจัดซื้อแอร์บัส หลังขาดทุนยับ
วันนี้ (26 ม.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นายโยธิน ภมรมนตรี อดีตกัปตันบริษัท การบินไทย และอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนกลุ่มธรรมาภิบาล ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการพฤติกรรมของนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และนายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ เนื่องจากกรณีที่นายจรัมพรอนุมัติการเดินทางซึ่งมีค่าวีซ่า ระยะเวลา 10 ปี และค่าดำเนินการให้นายณรงค์ชัยไปร่วมงานของบริษัท โบอิ้ง ประเทศ อังกฤษ เมื่อวันที่ 12-13 ก.ค. 2559 จำนวนเงินกว่า 7 หมื่นบาท ทั้งที่นายณรงค์ชัยเป็นพนักงานจ้างตามสัญญา 4 ปี เหลืออายุปฏิบัติงานอีกประมาณ 19 เดือนเท่านั้น
นอกจากนี้ ขอให้ตรวจสอบความโปร่งใสกระบวนการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A340-500 และ A340-600 จำนวน 10 ลำ ที่ขณะนี้ถูกจอดทิ้งไม่มีการใช้งานว่ามีความโปร่งใสหรือคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่ ทั้งนี้ เครื่องบินดังกล่าวมีกระบวนการจัดซื้อตั้งแต่ปี 2545-2546 โดยมีการอนุมัติมาเป็นขึ้นตอนตั้งแต่บริษัท การบินไทย ผ่านระดับกระทรวง แต่เมื่อมาถึงขั้นตอนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้การบินไทยทบทวนโครงการและเสนอโครงการใหม่ แต่การบินไทยก็ยังดำเนินการจัดซื้อ และเมื่อนำมาให้บริการก็ขาดทุนปีละประมาณ 3-5 พันล้านบาท จึงจำเป็นต้องหยุดให้บริการ โดยหลังจากนั้นมีผู้สนใจซื้อต่อในราคาลำละ 760 ล้านบาท แต่คณะกรรมการการบินไทยไม่อนุมัติให้ขาย เพราะราคาขณะจัดซื้อลำละประมาณ 5-6 พันล้านบาท และขณะนี้เครื่องบินทั้งหมดปลดประจำการ และจอดอยู่ที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินอู่ตะเภา
อย่างไรก็ตาม การจัดซื้อดังกล่าวถือเป็นการจัดซื้อที่ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน มีความไม่ชอบมาพากลของการบินไทย จึงขอให้นายกฯ ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตรวจสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบในการบินไทย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน โดยการตั้งกรรมการพิเศษเพื่อตรวจสอบเฉพาะ และให้มีการปฏิรูปเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและไร้ทุจริต