ผบ.ทบ.ขอทุกฝ่ายร่วมปรองดองนั่งคุยกัน-ถอยคนละก้าว มั่นใจทุกฝ่ายมีจิตสำนึกทำเพื่ออนาคตของชาติ “บิ๊กช้าง” เล็งเพิ่มนักวิชาการนั่ง กก.ปรองดอง ย้ำเน้นสายพลเรือน
วันนี้ (25ม.ค.) ที่กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงความคืบหน้าแนวทางการสร้างความสามัคคีปรองดองว่า คำสั่งรายชื่อการแต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสร้างสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) นั้น คำสั่งยังไม่ได้ลงนามออกมาเป็นทางการ ตนยังไม่เห็นรายชื่อคณะกรรมการฯ ไม่ใช่เรื่องที่คนนั้นหรือคนนี้ออกมาพูดกันในแต่ละที ตนมีความเป็นห่วงที่สื่อไปถามคนนั้นที หรือคนนี้ที เพราะกลัวว่าจะทะเลาะกันก่อนเข้าห้อง เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการของคณะกรรมการปรองดอง โดยที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ระบุแล้วว่าต้องรอให้กระบวนการขับเคลื่อนเดินหน้าไป อีกไม่นานรายชื่อคณะกรรมการฯ และโครงสร้างการทำงานก็จะออกมา ทุกอย่างก็จะเดินหน้าต่อไป สื่อค่อยไปติดตามตอนนั้น
“ผมเข้าใจสื่อและสังคมให้ความสนใจเรื่องนี้ และพยายามซักถาม แต่บางครั้งยังไม่มีขัอมูลที่ตอบได้ เพราะกระบวนการยังไม่ถึงขั้นตอนต่างๆ เช่น การแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ก็ยังเดินหน้าต่อไปไม่ได้ หากตั้งคณะกรรมการเสร็จ โครงสร้างเรียบร้อย ทีการพิจารณารายละเอียดเข้าสู่การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการทุกอย่างก็จะเดินออกไป การพูดคุยเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่ใจผมอยากให้เป็นไปตามขั้นตอนที่พูดกันว่า 3 เดือนจะเห็นผล แต่ถ้าผู้สื่อข่าวสนใจทุกวันๆ ก็จะเป็นการจุดประเด็น บางทีคนนั้นหลุดออกมาคำคนนี้หลุดออกมาคำ ทีนี้ก็ไม่คุยกันเลย ก็จะกลายเป็นข้อเสีย พวกเราเอาใจช่วยทุกคน ไม่ว่าจะขัดแย้งหรือไม่ก็ตาม มานั่งคุยกันจะได้ประโยชน์ ขอให้ช่วยมองอนาคตของประเทศร่วมกัน นำความเห็นมาแชร์กัน และสรุปว่าตรงไหนสามารถเดินไปข้างหน้าได้ ความขัดแย้งที่มีจะแก้ไขตรงไหนอย่างไร กติกาก็จะค่อยๆ ออกมา”
เมื่อถามว่าการเมืองที่มีความขัดแย้งมา 10 ปีจะสามารถพูดคุยกันได้และเกิดผลเป็นรูปธรรมหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ตนเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจเพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องแก้ไขในยุคเราให้จบ อย่าเป็นภาระกับลูกหลาน ถ้าทุกคนมีจิตสำนึกรักชาติ อยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้า ถ้าเราลดทิฐิซึ่งสามารถเสนอความคิดเห็นในจุดของเราและต้องรับฟังคนอื่นด้วย ดังนั้นการไปคุยในที่ประชุมมีโอกาสถามและตอบกัน เชื่อว่าปัญหาก็จบได้ แต่ถ้ามาพูดผ่านสื่อมวลชนคนละคำแล้วลงหน้าหนังสือพิมพ์ มันก็จะกลายเป็นความน่ากลัวและความขัดแย้งจะถ่างออกไป ทุกคนต้องช่วยกัน สื่อฯ ก็ทำตามบทบาทหน้าที่ของตัวเอง นำเสนอในประเด็นที่บวกก็จะดี ค่อยตะล่อมให้แนวคิดนี้เดินไปได้ ถ้าคนไทยอยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้าขอให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ แต่ถ้าเราตัดซ้ายตัดขวากันทีก็จะเป็นปัญหา พูดกันคนละคำสองคำ แล้วมีคำพูดไปค้างหน้าสื่อก็จะไปคิดมาก ไม่มาเข้าร่วม ก็จะเกิดปัญหาอีก พวกเราก็จะมาเหนื่อยและลูกหลานจะลำบาก
เมื่อถามว่าการปรองดองครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ตนตั้งใจให้เป็นแบบนั้น ตนเชื่อว่าทุกคนมีจิตสำนึกและทุกอย่างจะดีขึ้น เมื่อถามต่อว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่านักการเมืองพอเข้าไปพูดคุยตกลงกันแล้ว แต่ออกมาภายนอกจะพูดอีกอย่าง พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า เป็นจิตสำนึกของแต่ละคน ตอนนี้เรากำลังทำเพื่อส่วนร่วมเพื่อชาติและเพื่ออนาคตของที่ดีชาติและของลูกหลานเรา ถ้าเรามีจิตใจรักชาติและมีจิตสำนึกที่ดี ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้หมด ขอให้ถอยคนละเล็กคนละน้อยและลดทิฐิลง
ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ตนปรับแก้ไขบางส่วนของคณะกรรมการ โดยจะเน้นโครงสร้างให้มีนักวิชาการด้านพลเรือน ทั้งสายนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รวมทั้งสายอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความปรองดองมากขึ้น ซึ่งตอนนี้กำลังพิจารณากันอยู่ ส่วนรายละเอียดความคืบหน้าจะเป็นอย่างไรนั้นทางโฆษกกระทรวงกลาโหมจะชี้แจงอีกที อย่างไรก็ตาม เราจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ เพราะโครงสร้างใหญ่ของคณะกรรมการฯเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงองค์ประกอบของคณะทำงานในแต่ละคณะอนุกรรมการเท่านั้นที่เรากำลังพิจารณากันอยู่
เมื่อถามย้ำว่าการเชิญนักวิชาการเข้ามาเป็นคณะกรรมการฯ จะเน้นจากสำนักสามย่าน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือสำนักท่าพระจันทร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือหลายมหาวิทยาลัย พล.อ.ชัยชาญกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ ต้องให้โฆษกกระทรวงกลาโหมชี้แจงอีกที แต่ขอย้ำว่าจะมีนักวิชาการที่หลากหลายเข้ามาเป็นคณะกรรมการ