xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” เผยรวมความเห็นพรรคชง สปท.ก่อนสิ้นเดือน อยากเห็นปรองดองเป็นเอกภาพขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” เตรียมรวบรวมความเห็นลูกพรรค จัดทำข้อเสนอต่อ สปท.ก่อนสิ้นเดือนนี้ ย้ำหลักการสำคัญต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม หากจะมีนิรโทษกรรมต้องให้เพียงผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายพิเศษขณะนั้น พร้อมอยากเห็นการทำงานเรื่องการสร้างความปรองดองมีความเป็นเอกภาพมากขึ้น

วันนี้ (25 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระบวนการสร้างความปรองดองที่ทุกฝ่ายเริ่มดำเนินการ โดยเปิดเผยว่าได้รับการประสานงานจากคณะกรรมาธิการ สปท.ด้านการเมือง ให้ส่งความเห็นข้อเสนอแนะเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งจะมีการหารือกับสมาชิกพรรคในวันพรุ่งนี้เพื่อรวมรวมความเห็น และส่งก่อนวันที่ 31 มกราคมนี้ แต่โดยหลักการแล้วอยากให้การปรองดองยึดหลักการที่มองไปข้างหน้าให้มาก เพื่อไม่ให้ติดกรอบความขัดแย้งในอดีต ส่วนการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตก็อยากให้มองว่าเป็นเรื่องความคิดทางการเมือง ไม่ใช่เพียงเรื่องความขัดแย้งระหว่างตัวบุคคล ขณะที่การนิรโทษกรรมนั้นควรให้เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลทั่วไปที่ทำผิดกฎหมายการชุมนุม ส่วนเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องก็ควรให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม รู้สึกดีใจที่นายกรัฐมนตรีเห็นตามนี้ชัดเจนว่าจะต้องดำเนินการโดยไม่ขัดหลักกฎหมาย

สำหรับกรณีที่คณะอนุกรรมาธิการ สปท.ด้านการเมืองที่ทำการศึกษาเรื่องนี้อยู่ ยกกรณีการสร้างความปรองดองในอดีตที่เคยมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 เพื่อยุติการต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมาเป็นหลักนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ผลการศึกษาในอดีตตั้งแต่สมัยตนเองเป็นรัฐบาลก็มีการศึกษาไว้สามารถนำมาพิจารณาได้ แต่กรณีอดีตที่นานกว่านั้นอาจนำหลักคิดบางส่วนมาปรับใช้ได้ แต่หลายคนเองก็ยังมองไม่ค่อยชัดว่าจะนำมาปรับใช้ทั้งหมดได้อย่างไร เพราะไม่มีอะไรที่สำเร็จรูป ที่สุดแล้วควรจะรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายแล้วกำหนดหลักการใหญ่สำคัญร่วมกันก่อน ไม่ควรจะตั้งเรื่องประเด็นใดประเด็นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งตั้งแต่แรก

ส่วนข้อสังเกตว่า การอ้างถึงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ที่เคยให้โอกาสแนวร่วมพรรคคอมมิวนิสต์มาร่วมพัฒนาชาติไทยจะนำไปสู่การนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หากนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้ก็ควรไม่มีเงื่อนไขนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมชี้ถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เคยมีการอ้างรายงานการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้าว่าที่เห็นด้วยต่อการนิรโทษกรรม สุดท้ายรายงานดังกล่าวก็ไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้

นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ควรกำหนดหลักการใหญ่สำคัญไว้ อย่างที่นายกรัฐมนตรีระบุไว้ว่าไม่อยากให้เกิดการเลือกตั้งที่รุนแรง และให้ยึดหลักกฎหมายซึ่งเป็นหลักการที่ทุกฝ่ายน่าจะยอมรับได้ พร้อมเห็นว่าการทำงานเรื่องนี้ต้องมีความเป็นเอกภาพซึ่งตอนนี้ทั้ง สปท., สนช. และรัฐบาลต่างก็ดำเนินการกันไป และไม่แน่ใจว่าเป็นไปแนวทางเดียวกันหรือไม่ จึงเห็นว่าควรกำหนดกรอบการทำงานให้ชัดเจน เช่นองค์กรที่เกี่ยวข้องอย่าง สนช.กับ สปท. เมื่อดำเนินการเสร็จตามกรอบแล้วก็ส่งรายงานผลการศึกษาให้องค์กรเจ้าภาพคือคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป. สรุปผลและตัดสินใจดำเนินการ
กำลังโหลดความคิดเห็น