นายกรัฐมนตรี ยันวางอ่างบัวเพื่อความสวยงามตามนโยบาย ปัดดูฮวงจุ้ย เผย สอบอยู่สร้างอาคารรับรองหลังตึกไทยคู่ฟ้าล่าช้า เพราะอะไร ยันพยายามขุดโคลนตมขึ้นมา พร้อมตอบทุกคำถาม ถ้าผิดก็ฟ้องมา ด้านสื่อพบรั่วซะแล้ว เชื่อฝีมือคนตัดหญ้าทำเศษหินกระเด็นไปโดน
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.55 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการนำอ่างบัวมาประดับไว้ในทำเนียบฯ เพื่อเป็นสิริมงคล ว่า อ่างบัววางไว้เพื่อความสวยงาม ทุกที่ตนได้ให้นโยบายไปแล้วว่าจะต้องมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม เป็นที่ประทับใจของผู้มาเยือน เช่น แขกต่างประเทศ การประดับเป็นสีสันสวยงามถือเป็นเรื่องดี หรือจะอยู่กันแบบเดิมๆ ไม่ต้องทำอะไร แค่นั่งเซ็นหนังสือก็จบ สิ่งที่ทำนั้นไม่ได้ก่อความเสียหาย
“ไม่สังเกตเหรอต้นไม้สีเหลือง มีตั้งนานแล้วทำไมไม่ว่าผม ดอกดาวเรืองอยู่ริมประตูเคยเห็นหรือไม่ หรือไม่สนใจ เห็นอะไรตั้ง ก็มีเรื่องขึ้นมาทันที ผมไม่จำเป็นต้องดูเรื่องฮวงจุ้ย แต่อยู่ที่การทำงาน วางอะไรก็แล้วแต่ ถ้าทุจริตผมก็ช่วยอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าไม่ตั้งใจทำงาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอยู่ ผมเป็นคนชอบบัวหลวง แต่บัวหลวงปลูกไม่ได้ เพราะต้องเป็นน้ำลึก หากชำรุดก็ให้เขาซ่อมชดใช้ อย่าไม่มองเรื่องเล็กน้อย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนความล่าช้าในการก่อสร้างอาคารรับรองหลังตึกไทยคู่ฟ้านั้น ก็ได้ให้ตรวจสอบแล้วว่าล่าช้าเพราะอะไร ได้ต่อเวลาในการก่อสร้างไปอีกหรือไม่ แต่อยากให้คิดว่าทำเนียบรัฐบาลควรจะมีการเปลี่ยนแปลง การก่อสร้างอาคารด้านหลังตึกไทยฯ เพื่อรองรับแขก สามารถจัดประชุม ครม. ได้ เป็นเรื่องหน้าประเทศ และวันหน้าตนก็จะไม่อยู่จนวันตาย เพราะต้องปล่อยให้รัฐบาลอื่นได้ใช้ประโยชน์ต่อ ในการทำงานจะต้องเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น รัฐบาลพยายามแก้ไขทั้งระบบ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีคณะกรรมการ ป.ย.ป. เพื่อรวบรวมงานต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการทุจริต กลไกการตรวจสอบ การลงทุน รัฐบาลพยายามทำแผนแม่บท เพื่อใช้ในยุทธศาสตร์ชาติจึงต้องเดินหน้า เพื่อไม่ได้เกิดปัญหาในการพัฒนา สร้างความไว้วางใจในสังคม หลายเรื่องดีอยู่แล้ว แต่หลายเรื่องกำลังดำเนินการ เมื่อมีคนไม่ดีก็ต้องลงโทษ ไม่ใช่ไปว่ากันทั้งองค์กร ขอให้นึกถึงคนทำงานบ้าง เพราะนั่นคือการทำลายขวัญกำลังใจ อย่าพูดให้เกิดความแตกแยก เพราะปัญหาความปรองดองในประเทศไทย เกิดขึ้นจากเรื่องเหล่านี้ทั้งนั้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องทำยุทธศาสตร์ปฏิรูปและปรองดอง เพื่อไปสู่อนาคตที่ดีกว่า ปรองดองเพื่อสร้างบรรยากาศการปฏิรูปและยุทธศาสตร์ เพราะถ้าทะเลาะเบาะแว้งก็ทำไม่ได้ พังทั้งหมด ไม่ใช่แค่ตนหรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่หมายถึงทั้งรัฐบาลและคนไทยทั้งประเทศ ถ้ายังรู้สึกว่าเป็นคนไทยอยู่ ก็ต้องช่วยกันเดินหน้าเรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่ค้านและตีทุกเรื่อง และมันเคยมีอะไรดีกว่านี้หรือไม่ เคยมีใครคิดอะไรแบบนี้หรือไม่ ถ้าไม่คิดอย่ามาติผม ไปหาวิธีการที่ดีกว่านี้มา ชี้แจงกับผม ผมพร้อมชี้แจงด้วย
“ความจริงผมไม่อยากพูดเรื่องบัว บัวถือเป็นพืชสกุลสูง นำไปไหว้พระ ถือว่าเป็นมงคล เป็นคติเตือนใจว่าทุกคนต้องพัฒนาตัวเอง อย่าทำตัวเหมือนบัวใต้น้ำ เพราะจะเป็นอาหารของเต่าปูปลา และอย่าพูดว่ารัฐบาลนี้เอาแต่ของดีๆ มาฉาบฉวยเหมือนบัวพ้นน้ำ แต่เรื่องไม่ดีกลับหมกโคลนตม ก็ผมกำลังขุดโคลนตมขึ้นมา ที่มีการฟ้องร้องกันทุกวัน อย่างเมื่อวานมีเรื่องทุจริต นั่นมันโคลนตมหรือไม่ รัฐบาลพร้อมตอบทุกคำถาม ถ้าผิดก็ฟ้องมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การทำงานไม่เคยท้อแท้ ยิ่งว่ายิ่งชอบ แต่ขอให้เข้าใจ เพราะประชาชนจะไม่เข้าใจ ตนเข้าใจสื่อเวลาเขียนข่าว แต่ก็จำเป็นต้องสร้างการรับรู้ต่อประชาชนว่าเรื่องใด ใช่หรือไม่ใช่ ซึ่งบางอย่างไม่จำเป็นต้องเถียงหรือชี้แจง แต่กลับเป็นประเด็นหมดเลย ทั้งเรื่องสำคัญ ไม่สำคัญ เรื่องงี่เง่า แล้วกลับมาบอกว่าต้องการปรองดองให้ใช้มาตรา 44 ต่อให้มาตรา 88 ก็ทำไม่ได้
ล่าสุด มีรายงานว่า อ่างบัวที่อยู่สนามหญ้าหน้าตึกบัญชาการ 1 ริมถนนทางที่จะไปตึกไทยคู่ฟ้า ได้เกิดแตกเป็นรูรั่ว จนทำให้น้ำในอ่างไหลออกจากอ่างจนเกือบแห้ง และมีน้ำนองพื้น โดยเจ้าหน้าที่คนสวนได้นำฟองน้ำสก๊อตไบร์ทมาอุดรูรั่วป้องกันน้ำไหลออกจากอ่างไว้เป็นการชั่วคราว ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าคนงานตัดหญ้าทำเศษหินกระเด็นไปโดนจนเป็นรูรั่ว
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรารายงานว่าอ่างบัวที่วางในทำเนียบรัฐบาลดังกล่าวมีราคาใบละประมาณ 5,000 บาท