เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยันนำอ่างบัวสีปรับภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาล ไม่ได้ปรับฮวงจุ้ย แค่อยากให้สวยงาม ขอเช็กรายละเอียดก่อนหลังพบผู้รับเหมาปรับปรุงตึกบัญชาการไม่เสร็จตามสัญญา แต่รับมีปัญหาที่สั่งให้หยุดทำเพราะติดประชุม ครม.หรือแขกต่างชาติ เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง ระบุทุกอย่างโปร่งใส แต่ต้องว่ากันไปตามระเบียบ
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีรัฐบาลได้ปรับภูมิทัศน์ โดยนำอ่างบัวสีขนาดใหญ่จำนวน 10 อ่างมาประดับตกแต่งภายในทำเนียบฯ ว่า การปรับปรุงดังกล่าวไม่เกี่ยวกับไสยศาสตร์หรือฮวงจุ้ย เพราะเราคิดดีทำดีอยู่แล้ว ส่วนฮวยจุ้ยก็เหมือนน้ำกับลม แต่ตนอยากทำให้ทำเนียบฯ เกิดความสวยงามเท่านั้น ซึ่งได้มีการพูดคุยกันว่าอยากตัดแต่งต้นไม้ให้สวยงามและนำดอกไม้ต่างๆ มาปลูกให้เกิดสีสัน ซึ่งดอกบัวมีความสวยงามจึงได้นำเข้ามาประดับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนการนำอ่างบัวมาประดับบริเวณศาลพระภูมิและศาลตายายเนื่องจากได้ปลูกดอกไม้ไว้แล้วดูไม่สวยงามเท่าที่ควรจึงได้เปลี่ยนนำอ่างบัวมาวาง
ส่วนปัญหาการปรับปรุงตึกบัญชาการไม่เสร็จตามสัญญานั้น เลขาธิการนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ตนขอเช็กในรายละเอียดและระเบียบก่อน แต่ได้สอบถามไปยังผู้รับผิดชอบแล้วว่าให้นำรายละเอียดสัญญาจ้างมาให้ตนแล้วภายในวันนี้ แต่ก็ยังไม่ได้รายละเอียด ซึ่งเราต้องไปดูเหตุผลและเหตุขัดข้องว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่เท่าที่ทราบเป็นปัญหาทางเทคนิคคือวันไหนที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีแขกจากต่างประเทศมาเข้าพบ หรือรองนายกฯ มีประชุมสำคัญๆ ภายในตึกดังกล่าวเราได้ขอหยุดการปรับปรุง เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึง ยืนยันว่ารัฐบาลทำทุกอย่างโปร่งใส อย่างไรก็ตาม หากพบว่าการเลยระยะก่อสร้างมาจากตัวผู้รับเหมาก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบ
ทั้งนี้ โครงการตกแต่งตึกบัญชาการ 1-2 ทำเนียบรัฐบาล ได้หมดสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2560 ภายหลังจากที่มีการดำเนินการตั้งแต่ 28 มีนาคม 2559 รวมระยะเวลา 300 วันโดยจะปรับปรุงให้อาคารเป็นไปในรูปแบบเดียวกับตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี ใช้งบประมาณทั้งหมด 31 ล้านบาท ภายใต้การควบคุมดูแลของกรมศิลปากร ปรากฏว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ครบรอบสัญญาจ้าง แต่โครงการยังปรับปรุงไม่แล้วเสร็จทั้งตึกบัญชาการ 1 และ 2