“เทพไท” ค้านผู้ว่าฯ ซีอีโอ ชี้ซ้ำรอยยุค “แม้ว” ส่อเอื้อระบบอุปถัมภ์ หนุนเลือกตั้งแทน

รองเลขาฯ ปชป.มองโครงการผู้ว่าฯ ซีอีโอ ของรัฐบาล แนวคิดไม่ต่างจากยุค “ทักษิณ” มุ่งบริหารจังหวัดแบบธุรกิจ ถึงวางคุณสมบัติแน่นแต่ก็เอื้อระบบอุปถัมภ์ หนุนผู้ว่าฯ พันธุ์ใหม่ แต่ต้องมาจากการเลือกตั้ง

วันนี้ (22 ม.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวถึงแนวความคิดของรัฐบาลที่จะให้มีโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดแบบซีอีโอ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดพันธุ์ใหม่ว่า แนวความคิดดังกล่าวไม่แตกต่างจากยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการให้การบริหารจังหวัดอยู่ในรูปแบบธุรกิจ มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้จัดการบริษัทซึ่งประสบความล้มเหลวมาแล้ว ถ้ารัฐบาลชุดนี้จะหยิบยกแนวความคิดซึ่งเป็นสารตกค้างของรัฐบาลทักษิณมาปัดฝุ่นและใช้ต่ออีกก็จะทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แม้ว่ารัฐบาลชุดนี้จะกำหนดสเปกผู้ว่าฯ พันธุ์ใหม่ว่า 1. ต้องเป็นคนหนุ่ม อายุ 50 ปีต้นๆ 2. เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ในการบริหารจังหวัด 3. ต้องอยู่ในวาระอย่างต่อเนื่อง 4-5 ปี 4. จะมีเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในการพัฒนาจังหวัดปีละ 1,000-5,000 ล้านบาท และ 5. กำหนดให้มีผู้ว่าฯ CEO ในจังหวัดที่มีความพร้อมบางจังหวัดเท่านั้น หากมีการวางคุณสมบัติ หรือกำหนดสเปกอย่างนี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะก่อให้เกิดระบบอุปถัมภ์ เด็กเส้นเด็กฝากเข้ามาอย่างแน่นอน

“โดยส่วนตัวนั้นสนับสนุนให้มีการบริหารราชการจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจเบ็ดเสร็จในตัดสินใจในการพัฒนาหรือกำหนดนโยบายจังหวัดนั้นๆ แต่วิธีการที่ได้มาจะต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนในจังหวัดนั้นๆ มากกว่า เพราะคุณสมบัติที่รัฐบาลกำหนดใน 5 ข้อ สอดคล้องกับคุณสมบัติของนายก อบจ. ในปัจจุบัน และเชื่อว่าถ้ารัฐบาลสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาจังหวัดปีละ 1,000-5,000 ล้านบาท ผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้งสามารถที่จะพัฒนา และบริหารจังหวัดได้ดีกว่าผู้ว่าฯ ที่มาจากการแต่งตั้งจากรัฐบาลกลางอย่างแน่นอน จึงอยากจะสนับสนุนให้รัฐบาล ผลักดันโครงการผู้ว่าฯ พันธุ์ใหม่ ให้สำเร็จในรัฐบาลชุดนี้ แต่ต้องเปลี่ยนวิธีการได้มาของผู้ว่าราชการจังหวัดจากการแต่งตั้งเป็นการเลือกตั้ง เหมือนกับแนวความคิดของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องการให้มีผู้ว่าฯ มาจากการเลือกตั้งในบางจังหวัดที่มีความพร้อม” นายเทพไทกล่าว