อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ เรียกร้องรัฐบาล จัดการทุจริตเด็ดขาดก่อนเดินหน้าปรองดอง เชื่อคนไทยรับไม่ได้หากนิรโทษคนโกงชาติ ชี้เหมือนเอาความดีความชั่วมาจับมือกัน ยังไงก็ไม่สงบ
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการสร้างความปรองดองที่รัฐบาลกำลังดำเนินการโดยมีผลผูกพันกับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งที่ผ่านมาตนได้ศึกษาเรื่องนี้มา พบว่าถ้ารัฐบาลนี้ต้องการสร้างความปรองดองจะต้องประกาศชัดเจนว่าจะทำเพื่ออะไร และการกำจัดความไม่สามัคคีกันในชาตินี้จะมีสาเหตุอะไร ที่ผ่านมานับตั้งแต่การรัฐประหาร ไม่ได้มีการแก้ปัญหาสิ่งที่เป็นสาเหตุของความขัดแย้งอย่างอย่างแท้จริง ถ้าย้อนไปยังตอนรัฐประหาร สาเหตุหนึ่งของคามขัดแย้งก็มาจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนั้นถ้ารัฐบาลไม่ประกาศความชัดเจนจะเกิดกระแสต่อต้าน เพราะจะมีความเข้าใจว่าจะเป็นการนิรโทษกรรมผู้ที่กระทำความผิดแก่ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
นายชาญชัย กล่าว่าเชื่อว่าถ้ามีการประกาศว่าจะนิรโทษให้กับผู้ที่ทุจริต ทำให้ประเทศชาติต้องไม่ได้เงินจากการทุจริตเป็นจำนวนนับแสนล้านบาทกลับคืนมา ตนเชื่อว่าแบบนี้คนไทยก็คงยอมรับไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่นเรื่องการให้สัมปทานต่างๆ ของรัฐที่มีข้อทุจริต มีการให้เงินใต้โต๊ะเป็นจำนวนมาก อาทิการให้สัมปทานในพื้นที่สนามบินของรัฐแก่เอกชนโดยมิชอบ ซึ่งเงินที่ใช้ในการทุจริตนี้ก็นำมาใช้ในการเลือกตั้ง เอามาหนุนหลังการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง และนำไปสู่การแต่งตั้งข้าราชการโดยไม่เป็นธรรม ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ฝ่ายที่ทำรัฐประหารทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมาได้ใช้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจ แต่ในช่วงการรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร 2549 จนถึงบัดนี้ที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำรงตำแหน่งมาแล้ว 2 ปี ตนก็ยังไม่เห็นความชัดเจนว่าจะมีการทำอะไรเพื่อคลี่คลายเรื่องการทุจริตเหล่านี้เลย ล่าสุดแม้จะมีคำพิพากษาของศาลออกมาแล้ว ก็ยังไม่สามารถบังคับคดีนำเอาเงินกลับมาเป็นของรัฐได้ เช่นเดียวกับกรณีการแก้สัมปทานโทรคมนาคมเป็นต้น
นายชาญชัย กล่าวต่อว่าดังนั้นเมื่อรัฐบาลต้องการที่จะแสดงความจริงใจจะให้เกิดความปรองดอง ต้องเอาเงินที่สูญเสียจากการทุจริตกลับคืนมา เพื่อให้เห็นเป็นประจักษ์ว่ารัฐบาลเข้ามาเพื่อทำให้เกิดการปฏิรูปที่เป็นไปได้ ซึ่งตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา แต่อย่างไรก็ตามไม่มั่นใจว่าคนที่อยู่รอบข้างนายกรัฐมนตรีจะทำตามหรือไม่ ขอย้ำว่าถ้าหากไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหาที่ออกมาเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ คนจะมองว่าการใช้ชื่อความปรองดองนั้นจะนำไปสู่การนิรโทษกรรมผู้ที่ทุจริต และจะนำไปสู่กระแสต่อต้าน ซึ่งตนไม่อยากเห็นภาพนั้น
นายชาญชัยกล่าวว่าดังนั้นตนขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลดังนี้ 1. ต้องทำให้สิ่งที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่ถูก และสิ่งที่ผิดเป็นสิ่งที่ผิด 2. คนที่หวังจะฉวยโอกาสว่าจะได้รับการนิรโทษกรรม และในภายภาคหน้าจะกลับเข้ามา ทุจริตกอบโกย กินบ้านกินเมืองอีก ตนเห็นว่าพวกนี้เหมือนปลวกที่กินบ้านกินเมือง ดังนั้นควรจะกำจัดปลวกเหล่านี้ให้หมดภายในวันนี้
“พวกผมไม่ขัดข้องที่จะร่วมปรองดองเพื่อทำให้เกิดความสามัคคีในชาติ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาอุปสรรค เราชี้แจงให้กับรัฐบาลไปมากพอสมควรแล้วว่า ความจริงและความถูกต้องอยู่ตรงไหน ใครทำอะไร ทำเมื่อไร ผมยืนยันในหลักการว่าพวกผมไม่ได้มีความคิดอคติ แต่ถ้าหากจะให้ไปจับมือกับอีกฝ่ายที่เขาทุจริต แล้วเราต่อต้านการทุจริต แบบนี้เป็นเหมือนการจับมือกันระหว่างความดีและความชั่ว ซึ่งผมว่าเรื่องนี้แบบนี้คงจะไม่มีในโลกนี้ และสุดท้ายมันก็จะรอวันระเบิดอยู่ดี ไม่มีวันที่จะสงบสุขได้” นายชาญชัยกล่าว