“ประยุทธ์” เตรียมถก ปภ.ระดับชาติ สัปดาห์หน้า แก้ไขฟื้นฟูน้ำท่วม จี้ ปชช.ต้องเสียสละบ้าง สั่งสอบปมครูปริญญาปลอม ขอสังคมอย่าโยงปฏิรูปการศึกษา ขอสอบสวนปมครูแพะ อย่าเหมารวมด่าตำรวจ รอผลชัดเจนใครผิดใครถูก วอนช่วยรักษาหน้าตาประเทศ ย้ำโครงการรถเมล์เอ็นจีวีต้องเป็นไปตาม กม. วอนภาคเอกชนทำธุรกิจกับรัฐอย่างตรงไปตรงมา ชี้ปมเชฟรอนอยู่ระหว่างศึกษาทบทวน
วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยในเรื่องน้ำท่วมภาคใต้ เดิมทีวางแผนจะลงไปสัปดาห์นี้ แต่ด้วยมีภารกิจหลายประการและสภาพอากาศยังไม่ค่อยดี และต้องเดินทางด้วยเครื่องบินในทุกพื้นที่เนื่องจากน้ำยังไม่ค่อยลด ขอเวลาตนหน่อย ในระหว่างนี้ตนมีการประชุมและเตรียมการในหลายๆ เรื่อง ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะให้ทุกหน่วยงานมาชี้แจงสถานการณ์และแผนงานในเรื่องการแก้ไขฟื้นฟูและเรื่องความเสียหายในเบื้องต้น เพราะเราต้องมีการวางแผนไว้ก่อน โดยมีการจัดสรรเตรียมงบประมาณ เตรียมการบริหารจัดการให้ได้ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย ได้เสนอแผนงานโครงการที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนภาคใต้อย่างยั่งยืน
นายกฯ กล่าวต่อว่า เช่น การขุดลอกคูคลอง การทำคลองเส้นใหม่ การขุดถนนทำท่อระบายน้ำ การทำเส้นทางเบี่ยงน้ำ ปัญหามีอย่างเดียว พอคิดโครงการแล้วทำไม่ได้เพราะประชาชนไม่ให้ทำ ท่านต้องช่วยกันตรงนี้ ถ้าประชาชนไม่ร่วมมือ ไม่ยอมเสียสละกันบ้าง โดยที่รัฐบาลจะเยียวยาให้มันก็ทำไม่ได้ ก็ท่วมเหมือนเดิม ปัญหาประเทศไทยอยู่ตรงนี้ ความพึงพอใจของประชาชนต้องมีขอบเขต ไม่ใช่มากจนกระทั่งดูแลไม่ได้ มันก็กลายเป็นปัญหาการเมืองความขัดแย้ง ปรองดองเข้าไปอีก นี่ก็คือสาเหตุหนึ่งเรื่องทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ก็เป็นปัญหาไปสู่การปรองดอง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีอาจารย์ใช้ปริญญาเอกปลอมอ้างจบจากต่างประเทศเข้าสอนในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐว่า มีคนปลอมทั้งหมดกี่คน เพราะครูมีทั้งหมด 4 แสนกว่าคน แล้วเจอปลอมกันกี่คน ประมาณ 10 คนตอนนี้ที่เราเจอ เพราะฉะนั้นอย่ามาบอกว่าจะมีผลต่อการปฏิรูประบบการศึกษา จะทำให้ระบบสัมฤทธิผลหรือไม่ คำถามเหล่านี้ตนว่าไม่เกิดประโยชน์ ไปคิดคำถามมาใหม่ การปฏิรูปไม่ใช่การปฏิรูปครู 4 แสนคน ต้องปฏิรูปนักเรียนอีกกี่ล้านคน ปฏิรูปบุคลากรทางการศึกษาอีกกี่แสน กระทรวงศึกษาธิการอีก นี่สิเขาเรียกว่าการปฏิรูป ไม่ใช่พอมีครูปลอมที่ปลอมหรือเปล่าก็ไม่รู้ เมื่อไม่รู้ก็ไปสอบมา ให้คณะกรรมการกระทรวงศึกษาฯ ไปสอบมา ถ้าปลอมก็ติดคุก ดำเนินคดีกฎหมายเขามีอยู่ อย่ามาเกี่ยวพันกับการทำผิดกฎหมาย จะปฏิรูปก็ปฏิรูป เขาเรียกว่าคนไทยไม่ดูแลกันเอง ทุกคนก็รู้ว่าคนนี้ไม่ใช่และไปให้เขาสอนอยู่ได้ตั้งนาน เพื่อนยังไม่รู้หรือว่าคนนี้จบครูหรือไม่จบ สังคมต้องช่วยกันดูแลอย่าโยนภาระให้รัฐบาลทั้งหมด ถ้ารัฐบาลไม่ทำแล้วใครจะทำ ข้าราชการก็ปล่อยปละละเลยกันไปหมดนี่คือหน้าที่ของรัฐบาลมันอาจเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่จะต้องไม่เกิดขึ้นอยู่
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อกรณีกรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครูที่ถูกกล่าวหาขับรถชนคนเสียชีวิต จนถูกศาลพิพากษาให้จำคุก และได้รับอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 ซึ่งมีการอ้างว่าเป็นการจับแพะว่า ต้องลงไปดูและฟังเหตุเขาก่อน ไม่ใช่ไปเขียนว่าครูแพะ ติดคุกไปแล้วก็ไปดูว่าสอบสวนมาแล้วสำนวนหรือหลักฐาน พยานบุคคลว่าอย่างไรบ้าง อย่าเพิ่งไปลงความเห็นว่าใครผิดใครถูก ตนบอกแล้วว่าถ้าถูกก็พร้อมเยียวยาและขอโทษกันไป เยียวยาให้เหมาะสม เป็นครูก็เป็นไปก็กลับมาสอน แต่ถ้าไม่ใช่ขึ้นมาจะทำอย่างไรต่อไปต้องคิดด้านนี้บ้าง ถ้าไม่ใช่ขึ้นมาเป็นแจ้งความเท็จหรือพูดเท็จหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไปดูและฟังเขาพูดก่อน อย่าไปโทษกระแส มองมาที่ตำรวจจับแพะอีกแล้ว ให้เขาตัดสินมาก่อน ไม่ใช่อะไรเจ้าหน้าที่โดนหมดทุกอัน อีกหน่อยก็ไม่มีใครทำงานให้ท่าน ผิดก็คือผิด ไม่ได้ปกป้องคนผิด ต้องไปหาหลักฐาน ต้องพูดด้วยหลักฐานและกฎหมาย อย่าพูดด้วยความรู้สึก นึกถึงคนอีกกี่แสนคนที่เป็นตำรวจจะรู้สึกอย่างไร คนผิดก็มี ไปร้องโทษกล่าวโทษแจ้งความ ใครทุจริตจะโกงจะซื้อตำแหน่งไปหาหลักฐานมา ตนพร้อมทำให้ทันที พูดกันไปมาก็ไปกันใหญ่ แล้วต่างประเทศเขาได้ยินก็มาบอกประเทศไทยมีอะไรนักหนา สอบก็สอบแทนกัน อาจารย์ก็ปลอม แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ช่วยกันรักษาหน้าตาประเทศไทย ผิดคือผิด ไม่ได้ปิดบัง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถเมล์เอ็นจีวีว่า ต้องดูว่ากฎหมายว่าอย่างไร หากดำเนินการได้ แต่ว่าเรื่องผิดถูกต้องไปพิจารณากัน เพราะที่ทราบคือเป็นเรื่องของสัญญา บอกไปว่าทำให้ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าทำได้หรือไม่ ถ้าได้ก็คือได้ ถ้าไม่ได้ คนทำก็มีความผิด ทราบว่ามีคณะกรรมการตรวจสอบอยู่ มีอยู่ 2 อย่าง คือ สัญญาที่ทำกับ ขสมก. ต้องไปดูว่ามีผิดสัญญาตรงไหนหรือไม่ หากเป็นการสำแดงเท็จก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นความผิดอีกเรื่องหนึ่ง ตรงนี้ก็อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา
นายกฯ กล่าวต่อว่า เราต้องหาทางทำให้ได้ในหลายๆ เรื่องที่ทำไม่ได้ ตรงนี้ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างถ้ากรมสรรพากร กระทรวงการคลัง เขาไม่ทำจะเป็นอย่างไร ก็จะหลุดไปอีก สิ่งนี้คือสิ่งที่เขาพัฒนาตัวเองแล้ว ทำให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ยอม แต่ทำไมบริษัทที่เข้ามาทำกับรัฐบาลถึงได้ทำอย่างนี้ ก็ต้องแก้ไขสองอย่าง ทั้งเจ้าหน้าที่ ต้องไม่มีส่วนในผลประโยชน์ และบริษัทภาคเอกชนต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์แบบนี้ เพราะมันจะกลายเป็นการทุจริต ไม่โปร่งใส แน่นอว่ารัฐต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ภาคเอกชนต้องไม่ทำแบบนี้ ต้องแข่งขันโดยเสรี ด้วยความเป็นธรรม วันนี้เท่าที่ได้รับรายงานมาคือการประมูลก็ดีเป็นปกติ แต่พอมาถึงขั้นตอนการสำแดงกลายเป็นอีกเรื่อง ซึ่งก็ต้องไปพิจารณากัน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีกระทรวงการคลังเตรียมเรียกเก็บภาษีสรรพสามิต วงเงินกว่า 3 พันล้านบาท จากบริษัท เชฟรอน (ประเทศไทย) จำกัด ว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาทบทวนว่าเป็นอย่างไร เรื่องนี้เกิดมาหลายปีแล้วก่อนหน้าที่ตนเข้ามา แต่ละฝ่ายมีข้อสังเกตที่ตีความข้อกฎหมายไม่เหมือนกัน ดังนั้นต้องดูแผนที่ทางทะเลถึงจะชี้ชัด ถ้าท่ออยู่ในเขตไทยก็จบ ต้องเสียภาษี แต่ถ้าส่งออกเกินเขตประเทศไทย มีกฎหมายหมดอยู่แล้ว อย่ากังวล อย่าเพิ่งไปพูดอะไรให้เขา (บริษัท เชฟรอน) เสียหาย ถ้าเขาผิดก็ต้องจ่าย ต้องแก้ปัญหาให้ได้ ทุกอย่างต้องใช้กระบวนการ และประเทศต้องเสียประโยชน์น้อยที่สุด คนไทยต้องได้รับประโยชน์มากที่สุด