รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เผยตั้งกรรมการปรองดองเสร็จวันนี้ หวังทุกพรรคร่วมคุยจะปรองดองแบบไหน ให้ผู้ใหญ่มาฟังเพื่อเขียนเป็นกติกา ย้ำไม่เกี่ยวนิรโทษกรรม แต่ส่อทำข้อตกลงร่วมต้องลงเอ็มโอยู ยันไม่เคยขัดแย้งใคร เผยกรมพระธรรมนูญยื่นศาลอุทธรณ์ขอขยายเวลายื่นฎีกาคดี “อภิสิทธิ์” อีก 30 วัน
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่สโมสรกองทัพบก วิภาวดีรังสิต พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ว่าในเรื่องความปรองดองนั้นจะพิจารณาตั้งคณะกรรมการฯ ในวันนี้ (16 ม.ค.) ให้แล้วเสร็จ ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้ตนเข้ามาดูแลการสร้างความปรองดอง โดยให้ทุกพรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมในการพูดคุย พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นว่าจะสร้างความปรองดองในสังคมไทยได้อย่างไร ทั้งนี้ การปรองดองไม่ใช่เป็นเรื่องของพรรคการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่ประชาชนที่เข้าไปสังกัดพรรคการเมือง และมีแนวความคิดต่างๆ ก็สามารถเข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นได้
“เรื่องเหล่านี้ผมย้ำว่าไม่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ ไม่เกี่ยวกับการอภัยโทษ และนิรโทษกรรม แต่เป็นเรื่องการสร้างข้อตกลงร่วมกัน เช่น ในหมู่บ้านจะอยู่ร่วมกันและตกลงกันว่าการใช้น้ำ ทางทิศเหนือใช้วันจันทร์ ทางด้านทิศใต้ใช้วันอังคาร อย่างนี้เรียกว่าเป็นการตกลงร่วมกัน ไม่ใช่การขัดกฎหมาย และผมก็ไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาเอง แต่เป็นข้อตกลงที่ทุกฝ่ายยอมรับเพื่อสร้างความปรองดองของคนในประเทศต่อไปในอนาคต” พล.อ.ประวิตรกล่าว
เมื่อถามว่าจะต้องให้ทุกฝ่ายลงนามเอ็มโอยูร่วมกันหรือไม่ รองนายกฯ ประวิตรกล่าวว่า ถูกต้อง ต้องให้ทุกฝ่ายพึงพอใจและสามารถอยู่ร่วมกันได้ พร้อมทั้งย้ำว่าไม่ใช่เรื่องกฎหมาย อดีตก็เป็นเรื่องอดีต คงไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามต่ออีกว่าจะทำเอ็มโอยูห้ามพรรคการเมืองนำประชาชนเข้าร่วมชุมนุมด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องนี้มี พ.ร.บ.ชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ พ.ศ. 2559 บังคับใช้อยู่ ถ้าจะชุมนุมก็สามารถขออนุญาตได้ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่เป็นอะไร
พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า สำหรับรูปแบบการสร้างความปรองดองนั้นจะมีตัวแทนพรรคการเมืองแต่ละพรรค มาแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะ โดยเราจะที่ผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นผู้ใหญ่ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายกฎหมาย นักวิชาการ และผู้ที่เกี่ยวข้องมารับฟัง พร้อมรวบรวมประเด็นทั้งหมดเพื่อเขียนเป็นกติกา และจะมาชี้แจงให้พรรคการเมือง และทุกๆ ฝ่ายรับทราบ ซึ่งกติกาข้อใดที่ไม่เห็นด้วยก็สามารถหารือกันได้
เมื่อถามว่า ทาง คสช.จะแก้คำสั่งปลดล็อคเพื่อให้นักการเมืองสามารถประชุมพรรคด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่จำเป็นปลดล็อกนักการเมือง เพราะตนและ คสช.อยู่ในส่วนการพูดคุย ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การสร้างความปรองดองเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน ทางทหารจะทำอย่างไร เพราะว่าในอดีตทหารก็เป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า นั่นเป็นการโจมตีกองทัพ กองทัพไม่เคยโจมตีใคร และกองทัพไม่เคยมีศัตรู อีกทั้งตนไม่เคยขัดแย้งกับใคร เพียงแค่นักข่าวขัดแย้งกับตน แต่ตนไม่ขัดแย้งกับนักข่าว เมื่อนักข่าวถามตนก็เป็นประเด็น
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร ให้ดำเนินการฟ้องร้องคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลบเลี่ยงและขาดการเกณฑ์ทหารก่อนที่จะหมดอายุความ ว่ากรมพระธรรมนูญยื่นศาลอุทธรณ์ ขอขยายเวลายื่นฎีกาอีก 30 วัน หลังศาลเคยขยายเวลาครั้งก่อนถึง 13 ม.ค. 60