xs
xsm
sm
md
lg

“บัญชา” แนะ ปธ.ศาลฎีกา ออกข้อบังคับใช้เทคโนโลยีอ่านคำพิพากษาโดยเร็ว แก้ปมตัดสินช้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (แฟ้มภาพ)
สปท. “บัญชา” แนะประธานศาลฎีกานำระบบสืบพยานผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์มาใช้กับคดีอาญา พร้อมออกข้อบังคับให้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนนำระบบเทคโนโลยีอ่านคำพิพากษาโดยเร็ว อ้างแก้ปมตัดสินช้า ป้องกันการรั่วไหล หากจำเลยไม่ผิดจะได้ปล่อยตัวทันที

วันนี้ (15 ม.ค.) นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับประชามติ และ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับอื่นๆ บัญญัติสอดคล้องรองรับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ย่อมมีสิทธิเสรีภาพเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็ว ทั้งนี้ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา มีนโยบายโครงการคัดถ่ายคำพิพากษาระหว่างศาล โดยนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมได้เปิดบริการคู่ความคัดถ่ายสำเนาคำพิพากษาได้ที่ศาลยุติธรรมทั่วประเทศแล้ว แต่ตนยังเห็นว่า สมควรนำระบบการสืบพยานบุคคลโดยผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์มาใช้กับคดีอาญา โดยในการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และหรือศาลฎีกา ซึ่งเรียกว่าคำพิพากษาศาลสูง ซึ่งในทางปฏิบัติศาลชั้นต้นต้องออกหมายเบิกตัวจำเลยที่อยู่ในเรือนจำ เพราะไม่ได้รับการประกันตัวมาฟังคำพิพากษาศาลสูงต่อหน้าจำเลย นอกจากนี้ ยังมีระเบียบขั้นตอนอื่นๆ อาทิ ส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาให้โจทก์ พนักงานอัยการทราบ ซึ่งใช้เวลาประมาณเกือบ 2 เดือนกว่าศาลชั้นต้นจะได้อ่านคำพิพากษาศาลสูงต่อหน้าจำเลย

นายบัญชา กล่าวอีกว่า หากประธานศาลฎีกาได้โปรดออกข้อบังคับโดยให้ท่านผู้พิพากษาศาลสูง ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนคดี นำระบบเทคโนโลยีอ่านคำพิพากษาที่ศาลสูงโดยเร็วเมื่อจัดทำคำพิพากษาเสร็จ โดยให้ศาลชั้นต้นมีหนังสือเบิกตัวจำเลยมาฟังที่ศาลชั้นต้นโดยเร็ว และประสานงานทางระบบ IT ให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ ถือเป็นมาตรการหนึ่งในการป้องกันมิให้คำพิพากษาศาลสูงรั่วไหล ประกอบกับหากศาลสูงพิพากษาว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิดจะได้ออกหมายปล่อยตัวจำเลยไปทันที หรือมีคำสั่งตามที่เห็นสมควรต่อไป เป็นการรองรับสิทธิเสรีภาพและเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของจำเลยผู้บริสุทธิ์อย่างรวดเร็วตามรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องให้จำเลยกังวลใจในแต่ละวันว่าศาลสูงจะมีคำพิพากษาอย่างไร รวมทั้งทำให้กรมราชทัณฑ์ลดภาระการเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดูแลควบคุมจำเลยก่อนวันนัดฟังคำพิพากษาศาลสูงเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน อย่างไรก็ตาม หากศาลสูงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย จำเลยยังถูกคุมขังต่อไป ไม่กระทบสิทธิและเสรีภาพของจำเลย

“ขอเรียนท่านประธานศาลฎีกาได้โปรดพิจารณาออกข้อบังคับประธานศาลฎีกา เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติตลอดไป โดยไม่ต้องแก้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพื่ออำนวยความยุติธรรมโดยรวดเร็วให้กับจำเลยที่ไม่ได้กระทำความผิด ตามนโยบายของท่านประธานศาลฎีกา” นายบัญชา กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น