“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” โปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีร่วมนายกฯ ปล่อยขบวนคาราวานช่วยเหลือน้ำท่วมใต้ “ประยุทธ์” ย้ำเข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา ดูแลคนในพื้นที่ ขอกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความปรองดอง พระองค์ท่านห่วงประชาชน พระราชทานแนวทางแก้ไขปัญหาหลังเข้าเฝ้าฯ ส่วนพระองค์ เผยลายพระหัตถ์ทรงห่วงใยให้กำลังใจ ปชช. รบ.พร้อมน้อมนำกระแสรับสั่ง เร่งปฏิบัติทันที เล็งสั่งแก้ปัญหาขวางทางน้ำไหล
วันนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.15 น. ที่พระลานพระราชวังดุสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี พล.อ.ธีรชัย นาควานิช องคมนตรี และนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ร่วมเป็นประธานปล่อยขบวนคาราวาน “รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการช่วยเหลือประชาชน” จำนวนกว่า 900 คัน พร้อมจัดทีมนักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาที่จะไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยประมาณ 300 ทีม โดยขบวนคาราวานจะออกเดินทางระหว่างวันที่ 14-21 ม.ค.นี้ คาดว่าจะมีประชาชนได้รับการช่วยเหลือ 1.5 แสนครัวเรือน
นายกฯ กล่าวว่า การเดินทางไปครั้งนี้เป็นการแสดงพลังของคนไทยที่จะช่วยเหลือดูแลทุกข์สุขของประชาชนไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม เป็นการแสดงถึงน้ำใจที่เรามีให้ต่อกัน นั่นคือความเป็นคนไทย ความเป็นอนุรักษ์ไทยทั้งหมด สิ่งที่อยากกราบเรียนให้ที่ประชุมตรงนี้ทราบ วันนี้เราอยู่ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์คือลานพระราชวังดุสิต สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงประทับอยู่บริเวณนี้ เมื่อคืนวันที่ 12 ม.ค. ตนและพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะ ผอ.ศูนย์แก้ไขปัญหาส่วนกลาง ได้เข้าเฝ้าฯ เป็นการส่วนพระองค์ โดยได้ถวายรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยระดับสาม ฉะนั้นเป็นเรื่องของการบูรณาการของกระทรวงมหาดไทย พระองค์ท่านได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีมาร่วมตรงนี้ด้วย และวันนี้จะมีการประชุมที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อให้เกิดการบูรณาการอย่างแท้จริงและทั่วถึง
นายกฯ กล่าวอีกว่า พระองค์ท่านยังได้ทรงพระราชทานลายพระหัตถ์มาให้นายกฯ เพื่อมาพูดกับพวกเราและได้สนองพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน ที่พระองค์ทรงรับสั่งคือ เรื่องความห่วงใยประชาชน และสิ่งสำคัญคือการเร่งรัดช่วยเหลือดูแลและฟื้นฟูให้ได้โดยเร็วในทุกกิจกรรม วันนี้ถือว่าพวกเราเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลแก้ไขปัญหาให้ทุกอย่างอยู่ในภาวะปกติ สิ่งที่ตนอยากจะฝากพวกเรา คือ ขอให้ทุกคนนำพระราชดำรัสของพระองค์ท่านและพระบารมีของพระองค์ท่านไปให้พี่น้องชาวใต้ที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย และขอให้ทำหน้าที่เป็นทูตปรองดองของรัฐบาล คำว่าปรองดองของรัฐบาลก็คือเราไปร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีความแตกต่างในเรื่องอัตลักษณ์ สิ่งที่ห่วงมากที่สุดคือการที่พวกเราต้องปรับตัวให้เข้ากับพื้นที่ เหมือนกับที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับสั่งไว้ว่าเราต้องเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ฉะนั้นเราต้องเข้าใจอัตลักษณ์ประชาชนในจังหวัดภาคใต้ อย่าทำอะไรที่ผิดเพี้ยนและอย่าทำให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมาโดยเด็ดขาด ทำตัวให้คนใต้รักเรา เพราะจะทำให้การปรองดองนั้นไปทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะกิจกรรมนี้ที่รัฐบาลทำให้เกิดขึ้น การปรองดองคือการที่ทุกคนช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน มีจิตสำนึกเผื่อแผ่แบ่งปัน ไม่สร้างปัญหาใหม่ ไม่มีแบ่งแยก ไม่ว่าเชื้อชาติใดก็คนไทยทั้งสิ้น เราต้องรวมพลังความรัก ความสามัคคีทั้ง 70 ล้านคนให้ได้ ขณะเดียวกันขอให้ทุกคนติดตามสถานการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาว่าสถานการณ์ อาจจะมีพายุที่ก่อตัวในประเทศเพื่อนบ้านและจะเคลื่อนเข้ามาในไทย หวังว่าจะไม่ทำให้เหตุการณ์รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม เราต้องช่วยกันอธิษฐาน ขณะเดียวกันทุกคนต้องระมัดระวังตัวให้ปลอดภัย
“ขอให้ทุกคนที่เดินทางไปปลอดภัยและเป็นกำลังใจให้กันและกัน รัฐบาลจะติดตามการทำงานตรงนี้ สิ่งสำคัญขอให้ทุกคนสำนึกว่า พระองค์ท่านทรงห่วงจริงๆ ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีมาร่วมและจะหารือประสานกันในการช่วยเหลือ และขอให้ช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนตามแนวทางในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัฐบาลก็จะนำมาปฏิบัติ ซึ่งหลายอย่างควรที่จะปฏิบัติได้นานแล้ว ปัญหาของเรามันเยอะมาก เราก็ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นปัญหาอีก แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เว้นแต่พวกเราร่วมมือกัน ซึ่งการแก้ไขปัญหาน้ำรัฐบาลต้องใช้มาตรการที่เข้มข้น รวมถึงทุกคนต้องรู้เส้นทางน้ำผ่านว่าอยู่ตรงไหนบ้างในทุกจังหวัด คนที่อยู่บริเวณนั้นต้องระมัดระวังตัวเอง ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการ แต่รัฐบาลจะพยายามทำไม่ให้ใครเดือดร้อนมากที่สุด” นายกรัฐมนตรีกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ยังเปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้มีพระมหากรุณาธิคุณให้ตนในฐานะนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และองคมนตรี เข้าเฝ้าฯ เป็นการส่วนพระองค์ โดยได้ถวายรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งพระองค์ทรงห่วงใยปัญหานี้เป็นหลัก โดยการจากนำเสนอด้วยพรีเซนเตชันของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการะทรวงมหาดไทยในฐานะ ผอ.ศูนย์แก้ไขปัญหาส่วนกลาง ได้นำอธิบดี ปภ.และคณะ เข้าถวายรายงานตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน โดยพระองค์ท่านทรงรับสั่งด้วยความห่วงใยหลายเรื่อง โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ทั้งที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ชาวประมง ปศุสัตว์ ซึ่งคล้ายกับเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2554 ที่เราได้ประสบกันมา โดยพระองค์ท่านทรงรับสั่งให้ทำให้ดีที่สุด มีการบูรณาการ ลดความซ้ำซ้อน ดูแลให้ทั่วถึง ขณะเดียวกันให้ดำเนินการคู่ขนาดกับการเตรียมแผนงานระยะยาวในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนในภาคใต้ นอกจากนี้ พระองค์ท่านยังทรงรับสั่งถึงแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ที่รับสั่งไว้หลายประการ โดยขอให้นำมาทบทวนด้วย ซึ่งรายละเอียดต่างๆ รมว.มหาดไทยจะชี้แจงอีกครั้ง เพราะในวันเดียวกันนี้จะมีการประชุมศูนย์ส่วนกลาง ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามกระแสรับสั่งทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ ทรงพระราชทานลายพระหัตถ์ถึงประชาชนทุกคน และตนขออนุญาตกล่าวให้ทุกคนทราบว่า พระองค์ท่านพระราชทานลายพระหัตถ์มาว่า ‘ด้วยความรักและห่วงใย ขอเป็นกำลังใจในการร่วมกันฟื้นฟูและพัฒนาเพื่อขวัญที่ดี จิตใจและร่างกายที่เข้มแข็งนำมาซึ่งความสุขและมั่นคงของชาติ’ และทรงลงพระปรมาภิไธยลงมา แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงห่วงใยทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการทุกภาคส่วนที่ลงไปช่วยกัน และพระราชทานกำลังใจให้ทุกคนด้วย ให้อดทนและเข้าใจ ว่าเราจะต้องอยู่กับน้ำอย่างไร ตนตีความหมายได้ว่าเราจะต้องเรียนรู้เพราะสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง พระองค์ท่านทรงรับสั่งมา เพราะฉะนั้นเราจะต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ในวันข้างหน้าอีก ดังนั้นเราจะต้องเตรียมการให้พร้อม
“ผมขอชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบว่าเราจำเป็นต้องดูแลระบบการระบายน้ำ ทั้งโครงการพระราชดำริต่างๆ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการอยู่แล้ว ตามแนวทางที่มีอยู่ในหลายจังหวัดที่ยังไม่ได้ทำมาดู ซึ่งปัญหาสิ่งหนึ่งที่อาจเกี่ยวข้องกับประชาชนและสิ่งก่อสร้างต่างๆ กีดขวางทางน้ำทั้งหมด ทั้งถนน ที่พักอาศัย ซึ่งเราจะต้องดูให้รอบคอบว่าทำอย่างไรให้เดือดร้อนน้อยที่สุด เพื่อการระบายน้ำจะได้ลงสู่ทะเลอย่างมากที่สุด มิเช่นนั้นจะเกิดปัญหาอยู่อย่างนี้ แต่ทั้งหมดอยู่ในแผนบริหารจัดการน้ำอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องปรับให้เร็วขึ้นในการทำงานจะต้องนำแนวทางพระราชดำริในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาดำเนินการ”
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้พระองค์ท่านทรงรับสั่งด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ท่านทรงพระราชทานแนวทางไว้หลายอย่าง ในช่วง 70 ปีครองราชย์ จึงอยากให้นำมาใช้และปฏิบัติ เป็นสิ่งที่พระองค์ท่านได้ศึกษาค้นคว้าและทดลองมาหมดแล้ว รัฐบาลนี้จะน้อมนำรับใส่เกล้าใส่กระหม่อมในการดำเนินการต่อไปให้เป็นไปตามกระแสรับสั่งที่รับสั่งลงมา อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนี้จะมีขบวนคาราวานช่วยเหลือน้ำท่วมโดยกรมอาชีวศึกษา ตนจะบอกว่าทุกคนถือเป็นทูตปรองดองก็แล้วกัน ถือเป็นตัวอย่างการปรองดองที่ทุกคน ไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน ทุกคนมีน้ำใจเผื่อแผ่แบ่งปันซึ่งกันและกัน ทุกข์สุขไปด้วยกัน อย่างสถานการณ์ในปี 2554 พระองค์ท่านพระราชทานไว้ว่า ถ้าทุกข์ก็ทุกข์ไปด้วยกัน สุขก็สุขไปด้วยกัน ในปี 2554 พระองค์ท่านก็ทรงอดทนกับน้ำท่วมเหมือนกัน ทรงช่วยเหลือประชาชนและพระองค์ท่านเสด็จไปไหนมาไหนไม่ได้เช่นกัน และทรงเล่าให้ฟังว่าลำบากไปด้วย วันนี้เราน่าจะแก้ปัญหาไปได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจ ทุกภาคส่วนและสถาบันฯ พร้อมสนับสนุนรัฐบาลในทุกกรณี โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชน
“วันนี้พระองค์ท่านได้พระราชทานให้หน่วยบัญชาการถวายรักษาความปลอดภัยได้ลงไปช่วยเหลือร่วมกับทหารของรัฐบาลด้วย ขณะเดียวกัน การช่วยเหลือดูแลผู้บาดเจ็บและสูญเสีย พระองค์ท่านทรงรับสั่งว่าถ้ามีอะไรที่จะพระราชทานความช่วยเหลือได้ก็จะช่วยควบคู่ไปกับการช่วยเหลือของรัฐบาล สรุปว่าจะเดินไปด้วยกันทั้งหมด ทั้งสถาบันฯ รัฐบาล และประชาชน ข้าราชการต้องเข้มแข็ง และประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ก็ถือว่าเป็นสิริมงคลแก่พวกเราทุกคน ข้าราชการเป็นกำลังใจ ซึ่งพระองค์ท่านทรงทราบดีว่าทุกคนเหน็ดเหนื่อย เสียสละ อดทนในการช่วยเหลือ ประชาชนก็เช่นกัน ต้องอดทนกับความยากลำบาก แต่ถ้าเราไม่แก้ไขอะไรเลย ยังทำลายป่า สร้างสิ่งกีดขวางทางน้ำ ไม่ทำตามกฎหมายผังเมือง ทำผิดกฎหมายการควบคุมอาคารก็จะกลายเป็นปัญหาของประเทศทั้งสิ้น ผมจะสั่งการอีกทั้งในที่ประชุม ครม.ให้เกิดความร่วมมือ และทำอย่างไรให้ประชาชนรู้ว่าจุดใดคือทางน้ำไหลในทุกจังหวัดและพื้นที่ ถ้ากำหนดแล้วทุกคนต้องระวัง อย่าก่อสร้างอะไรผิดระเบียบ ผิดกฎหมายในเส้นทางนั้นๆ จะต้องทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ไม่เช่นนั้นทุกคนจะทำอะไรแบบตามใจฉันจนแก้ไขไม่ได้ เพราะปล่อยให้เป็นปัญหายาวนาน เราจะปล่อยให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้แล้ว ทั้งเรื่องการรักษาป่า ฟื้นฟู ทำระบบระบายน้ำ ซึ่งต้องใช้งบมหาศาล หลายเรื่องต้องเริ่มใหม่”
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ พระองค์ท่านมีพระราชกระแสรับสั่งลงมาครอบคลุมในเรื่องของสถานการณ์บ้านเมือง อยากให้ทุกคนมีความรัก ความสามัคคี และอยู่ในความสงบ ทำให้บ้านเมืองมีความปลอดภัย ยั่งยืน เป็นที่เชื่อมั่นของนานาชาตินานาประเทศ ขอให้ทุกคนมีความรัก ความสามัคคี ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการให้เรียบร้อย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ ได้พระราชทานความห่วงใยด้วยจากพระราชหฤทัยของพระองค์ท่าน