เลขาฯ กฤษฎีกา เผยพร้อมช่วยดีอีอธิบาย พ.ร.บ.คอมพ์ ช่วยลดข้อขัดแย้ง รับประชาสัมพันธ์ยังน้อย ชี้ กม.แก้ไขได้เสมอแต่ผ่านแล้วว่าตามกระบวนการ แจงการลบข้อมูลขึ้นอยู่ที่ศาล เชื่อมีกลไกพอสมคร เผยร่าง พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงไซเบอร์ยังไม่เสร็จ รอคำตอบดีอี
วันนี้ (20 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ถึงกรณีการคัดค้าน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ว่าในที่ประชุม ครม.ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว โดยนายกฯ ขอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ไปอธิบาย ส่วนตนจะช่วยอธิบายด้วย เพราะเท่าที่มีการพูดกันยังไม่ค่อยตรงเท่าไร ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับซิงเกิล เกตเวย์ และข้อบัญญัติหลายเรื่องมีอยู่ในกฎหมายเก่าอยู่แล้ว โดยจะมีการอธิบายรายละเอียดกฎหมายในเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“นายกฯ เป็นห่วงเรื่องนี้ โดยเฉพาะเป็นห่วงว่าที่มีการพูดกันเรื่องนี้ยังไม่มีใครเข้าใจจริงๆ จึงให้ทางดีอีเร่งชี้แจงให้ชัดเจนจะได้ช่วยลดข้อขัดแย้งลง ยอมรับว่าการประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมาอาจมีน้อย หรือคนอาจจะเข้าใจได้ว่าการชี้แจงยังไม่ชัดเจน หรือคนที่ชี้แจงอาจจะเข้าใจแต่อธิบายไม่ถูก” นายดิสทัตกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนบางส่วนเรียกร้องให้แก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับนี้ ตอนนี้ยังแก้ไขได้หรือไม่ นายดิสทัตกล่าวว่า ความจริงกฎหมายแก้ไขได้เสมอ แต่ตอนนี้เมื่อกระบวนการกฎหมายผ่านไปแล้ว จะต้องว่ากันไปตามกระบวนการ สิ้นสุดในกระบวนการนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมครม.คุยกันถึงเรื่องกลุ่มแฮกเกอร์จะเข้ามาเจาะข้อมูลหน่วยงานรัฐหรือไม่ นายดิสทัตกล่าวว่า ตนไม่ได้ยินชัดเจน แต่ในทางกฎหมายมีการตั้งกลไกในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพอยู่แล้ว ซึ่งในระหว่างการพิจารณาของ สนช.ได้มีการเพิ่มในส่วนของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องขึ้นมา แต่เรื่องของการลบข้อมูลอะไรที่เข้าใจกันนั้นมันต้องจบที่ศาล ไม่ใช่อยู่ดีๆ ใครจะลบก็ได้ ตนคิดว่ามีการได้กำหนดกลไกไว้พอสมควร
เมื่อถามถึงความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ นายดิสทัตกล่าวว่า ยังไม่เสร็จ อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งกำลังรอคำตอบจากกระทรวงดีอีว่าจะให้เป็นแบบไหน หรือจะให้ทบทวนตรงไหน ส่วนที่มีความกังวลกันว่าจะไปซ่อนเรื่องซิงเกิล เกตเวย์ไว้นั้น คงไม่ใช่ แต่ตนยังไม่เห็นร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว
ต่อข้อถามว่า มีการวิจารณ์กันว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ อาจเป็นตัวหลอก แต่ พ.ร.บ.ไซเบอร์คือตัวจริง เลขาฯ กฤษฎีกา กล่าวว่า ถึงอย่างไรก็เป็นคนละส่วนกันทั้งสิ้น