โฆษกวิป สนช.เผยเตรียมพร้อมพิจารณากฎหมายลูก 10 ฉบับ พยายามให้ สนช.นั่ง กมธ.ดูร่าง เปิดกว้างรับฟังประชาชน-พรรคการเมือง
วันนี้ (13 ธ.ค.) นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะและรวบรวมความเห็น เพื่อประกอบการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ในการพิจารณากฎหมายลูก 10 ฉบับของ สนช.ขณะนี้ทาง กรธ.ยังไม่ได้ส่งร่าง พ.ร.ป.ฉบับใดมาให้สนช.พิจารณาเลย ซึ่งอาจจะรอให้รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ก่อนก็ได้ แต่ทาง สนช.ได้มีการเตรียมพร้อม เนื่องจากเรามีเวลาค่อนข้างจำกัดนับเพียงแค่ 60 วันนับตั้งแต่วันรับร่าง โดยกรรมาธิการฯ ได้กำหนดกรอบไว้กว้างๆ ว่าจะพยายามให้ สนช.ไปเป็นกรรมาธิการเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเพียงคณะเดียว แต่ไม่จำกัดสิทธิคนนอกที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ โดยขณะนี้ให้สมาชิกสนช.ได้แจ้งความจำนงว่าจะต้องการเป็นกรรมาธิการร่าง พ.ร.ป.ใดบ้าง และให้สำรองไว้อีกหนึ่งคณะ จากนั้นกรรมาธิการก็จะพิจารณาความเหมาะสม รวมทั้งพิจารณาสัดส่วนว่าแต่ละคณะมีกรรมาธิการจำนวนเท่าใด โดยขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละร่างกฎหมาย รวมถึงสัดส่วนของ กรธ.และ สปท. และองค์กรอิสระซึ่งเป็นเจ้าของร่างนั้นๆ ด้วย
เมื่อถามว่าทาง กรธ.ได้เปิดเวทีเพื่อรับฟังความเห็นต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ในวันที่ 14 ธ.ค. สนช.จะร่วมเวทีด้วยหรือไม่ นพ.เจตน์กล่าวว่า กรรมาธิการฯอยากให้สนช.ร่วมรับฟัง และศึกษาข้อมูลด้วย เพราะถือว่าเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เนื่องจากเป็นผู้ลงมติให้ความเห็นชอบในร่างกฎหมายดังกล่าว ส่วนที่พรรคการเมืองออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมืองนั้น ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญได้กำหนดว่าในการพิจารณากฎหมายใดๆจะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมและทำประชาพิจารณ์ด้วย ซึ่งร่าง พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเมื่อรัฐธรรมนูญเปิดทางไว้ก็ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่เนื่องจากเวลากระชั้นอาจจะทำประชาพิจารณ์ไม่ทัน ดังนั้นอาจจะทำผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย หรือส่งเป็นเอกสารแสดงความเห็นมายังกรรมาธิการ สนช.ได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคการเมืองคงจะไม่มีสัดส่วนในคณะกรรมาธิการ แต่สามารถแสดงความเห็นผ่านทางสมาชิก สปท.ที่เป็นตัวแทนพรรคการเมืองมาร่วมเป็นกรรมาธิการในสัดส่วนของ สปท.ได้