รองนายกรัฐมนตรีปาฐกถาวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล เชิดชู “รัชกาลที่ ๙” แบบอย่างของความสุจริต ชี้แต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายตามระเบียบสงฆ์ รักษาการกันเยอะแยะไป
วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่หอประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จ.นครปฐม เมื่อเวลา 11.00 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แสดงปาฐกถาเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล “เรื่องเล่าของพ่อขอทำดีเพื่อแผ่นดิน” โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า คนไทยยังอยู่ในช่วงของความโศกเศร้าการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างของความสุจริตมาโดยตลอด ในปี 2499 พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัส ว่าการจะทำกิจอะไรก็ตามให้ประสบความสำเร็จขอให้ยึดหลัก 4 อย่าง 1. ความอุตสาหะพากเพียร 2. ซื่อสัตย์สุจริต 3. มีใจเมตตากรุณา 4. บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ ถ้าผู้ใดทำแล้วจะทำงานยากงานใหญ่จะประสบความสำเร็จ หากดูพระราชดำรัสของพระองค์ท่านในเวลาต่อมาล้วนแต่มีคำว่าสุจริตอยู่ด้วยทั้งสิ้น และนอกจากพระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัสแล้ว พระองค์ท่านยังทรงปฏิบัติ ศึกษาแล้วนำมาสอน และมีผลสัมฤทธิ์ ให้ประชาชนได้เห็นโดยตลอด
นอกจากนี้ นายวิษณุได้ให้สัมภาษณ์กรณีการตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่ามีอยู่ในระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ปกติว่าพระรูปใดที่มีพรรษาเกินให้ยกขึ้นจากเจ้าคณะจังหวัดเป็นกิตติมศักดิ์ซึ่งเป็นระเบียบปกติอยู่แล้ว และบางกรณีที่อายุยังไม่ถึงแต่ถ้าไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เช่น ป่วย ทุพพลภาพก็ยกขึ้นเป็นกิตติมศักดิ์ได้ เพราะตอนตั้งไม่ได้ตั้งตัวเอง เป็นเรื่องที่ทางผู้ปกครองคณะสงฆ์เหนือขึ้นไปเป็นคนตั้ง เพราะฉะนั้นเขาก็เปลี่ยนแปลงได้
เมื่อถามว่า กรณีที่มีการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาส แต่ตัวรักษาการเจ้าอาวาสอยู่ต่างประเทศ นายวิษณุกล่าวว่า มีรักษาการแทนรักษาการได้มีเยอะแยะไป อธิบดีทำหน้าที่ไม่ได้รองก็ปฏิบัติหน้าที่แทน หากรองป่วยก็สามารถให้คนอื่นมาทำแทน มีเจ้าอาวาสหลายวัดที่ไม่ได้อยู่ประจำวัด อาศัยเจ้าอาวาสวัดอื่นไปทำหน้าที่แทน