“บิ๊กป้อม” จี้เอา “ธัมมชโย” มาดำเนินคดีให้ได้ โยนถามนายกฯ ปรับ ครม. ไม่ปล่อยคดีหมิ่นฯ

“ประวิตร” กร้าวไม่ปล่อยหรือเลือกปฏิบัติคดีหมิ่นสถาบันฯ ย้ำ รบ.ทำตามขั้นตอนไม่มีเลื่อนโรดแมปเอง กม.ลูกช้าเร็วอยู่ที่ กรธ. โยนถามนายกฯ ปรับ ครม. ย้อนถามโซเชียลฯ กุข่าว 3-4 รมต.ไปเป็นองคมนตรี แจงจับ “ธัมมชโย” ว่าตาม กม. เชื่อเกิดความเสียหาย จนท.ไม่ทำ รับไม่ทราบแผนตำรวจ แต่ต้องเอาตัวมาดำเนินคดีให่ได้ ติง NGO เอาแต่ค้านโครงการริมฝั่งเจ้าพระยา สวน ปชช.เห็นด้วย

วันนี้ (6 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรวม.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทางสื่อต่างประเทศอย่างบีบีซี นำเสนอข่าวเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของประเทศไทยว่า อะไรที่ผิดกฎหมายและทำให้เกิดความเสียหาย เราก็ต้องดำเนินการทั้งหมด ตนกำชับเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่าทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย ไม่มีปล่อยและไม่เลือกปฏิบัติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้สำนักข่าวต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทยมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสถาบันฯ มากขึ้น จะมีการขอความร่วมมือหรือไม่ ในภาพรวมเขาก็จะต้องดำเนินการซึ่งเป็นเรื่องของเขา เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอยู่หลายฝ่ายที่จะดำเนินการ เพราะข่าวจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ ตนไม่ทราบเหมือนกัน

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการพิจารณากฎหมายลูกที่พิจารณาล่าช้า ทำให้เป็นห่วงว่าจะทำให้โรดแมปของรัฐบาลต้องเลื่อนออกไปว่า ไม่มี รัฐบาลไม่มีเลื่อนโรดแมปเอง ทุกอย่างทำตามขั้นตอน แต่อยู่ที่สถานการณ์จะเป็นอย่างไร ส่วนกฎหมายลูกจะช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวปรับ ครม.ในขณะนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามนายกรัฐมนตรี ถามตนไม่ได้เพราะตนไม่ได้เป็นคนปรับ ครม. และนายกฯ ก็ไม่ได้มาปรึกษาอะไรตนในเรื่องนี้

“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกฯ เพราะท่านเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร นายกฯ จะดูเอง เพราะนายกฯ จะต้องรับผิดชอบความสำเร็จและความล้มเหลวทั้งหมด” รองนายกฯ กล่าว

เมื่อถามถึงข่าวในโซเชียลมีเดียที่มีการระบุว่าจะมีรัฐมนตรี 3-4 คนจะไปเป็นองคมนตรี พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ทราบ “คุณรู้มาจากโซเชียลฯ ก็ไปอ่านในโซเชียลฯ จะมาถามผมทำไม ต้องไปถามคนที่เขียนในโซเชียลฯ โน่น”

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการดำเนินการจับกุมพระธัมมชโยมาดำเนินคดีว่า รัฐบาลไม่ดำเนินการอะไร ขอให้ว่ากันไปตามกฎหมาย ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องเตรียมการอะไรหรือไม่ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทั้งในส่วนของตำรวจและดีเอสไอเขาคงพิจารณาให้ดี อะไรที่จะทำให้เกิดความเสียหายหรือเหตุร้ายขึ้นคงไม่ทำ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ในฐานะที่ตนดูแลตำรวจ ก็พูดได้ว่าตำรวจเองก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเท่านั้น ส่วนจะดำเนินการอย่างไร ตนไม่ทราบ เป็นการวางแผนของเขา เพราะเขาจะต้องนำพระธัมมชโยออกมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องมีเหตุผลว่าเพราะอะไร

เมื่อถามว่าแสดงว่าจะไม่มีการยื้อจนหมดเวลาของรัฐบาลนี้ใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตำรวจเขาดูอยู่ ทุกอย่างทำตามกฎหมาย

พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อถึงกระแสคัดค้านการก่อสร้างโครงการริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาว่า คนที่มาคัดค้านก็เป็นกลุ่มเดิมๆ ที่เคยคัดค้านอยู่ ไม่ใช่ชาวบ้าน

“มีขบวนการที่ออกมาดำเนินการคัดค้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่เขาพิจารณาทุกเรื่อง และประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำส่วนใหญ่ก็เห็นชอบทั้งนั้น มีแต่องค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) เท่านั้นที่ไม่ค่อยเห็นด้วย ไม่ใช่ประชาชนทั่วไป”