“สุเทพ” นำมูลนิธิ กปปส.จัดโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศลถวายแด่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ประชาชนหลายจังหวัดสนใจร่วมงานคับคั่ง ย้ำสถาบันพระมหากษัตริย์สำคัญมาก หากไม่มีไทยแตกแยกไปหลายประเทศแล้ว เลือกเกาะพลวยสืบสานทำโครงการชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง
วันนี้ (30 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่าเมื่อเวลา 07.30 น.ที่วัดธารน้ำไหล (สวนโมกขพลาราม) อ.ไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (กปปส.) จัดโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีผู้เข่าร่วมโครงการบรรพชารวม 118 รูป โดยในวันนี้มีนายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต รองผ้ว่าฯ เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า การบวชในครั้งนี้เป็นการมาร่วมกันทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ เอาคนที่เรารักมาบรรพชา เพื่อที่ปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๙ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ได้ทุ่มเทพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนชาวไทย เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนชาวไทยตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 70 ปี เป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก เป็นพระมหากษัตริย์ที่ได้รับการยกย่อง และได้รับการเทิดพระเกียรติจากกษัตริย์ทั่วโลกให้เป็นพระมหากษัตริย์ของกษัตริย์ทั้งปวง หรือ King Of The King
นายสุเทพกล่าวต่อว่า เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงพระอาการประชวรและทรงพักรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลศิริราช ทางมูลนิธิฯ ร่วมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี และมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จัดโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายแด่พระองค์ท่าน 2 ปีติดต่อกัน รวม 19 รุ่น มาครั้งนี้พิเศษว่าทุกครั้งเมื่อพระองค์ท่านเสด็จสวรรคต ปวงชนขาวไทยทั้งหลายที่รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตั้งใจที่จะเดินตามรอยพระยุคลบาททำความดีให้แก่ตัวเอง ส่วนรวมและแผ่นดินด้วยโครงการต่างๆ กปปส.ก็ได้เดินตามรอยพระบุคคลบาท และโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายฯก็จะเดินหน้าต่อไปการทำความดีที่ยิ่งใหญ่คือการปฏิบัติธรรม และจะปฏิบัติธรรมได้สมบูรณ์ คือการไปบวชเป็นพระศึกษาธรรมะ
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ได้พระราชทานแก่ชาวไทยและประเทศไทย ขณะนี้ประเทศอื่นๆ ในโลกได้น้อมนำเอาแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านไปเป็นแนวทางใช้หลายประเทศ คนไทยอยู่ใกล้พระองค์ท่านเองได้รู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงบ่อย แต่นำไปปฏิบัติน้อยมากทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่ดี เรื่องที่พระองค์ท่านพระราชทานด้วยความคาดหวังว่าคนไทยจะได้ศึกษาได้ปฏิบัติเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวาง
นายสุเทพกล่าวว่า ทาง กปปส.ขอเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะได้สืบสานปณิธานของพระองค์ทางในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงโดยได้เลือกเกาะพลวย เพราะเป็นเกาะที่มีประชาชนประมาณ 300 คน อยู่ใกล้เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่ทำโครงการชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ทาง กปปส.ก็ได้จัดตั้งวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ขึ้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นสถานศึกษาแห่งแรกที่มีการสอนธรรมะควบคู่กับการเรียนด้านวิชาการ โดยในเดือน ม.ค. 2560 ก็จะเริ่มเปิดรับสมัครบุคคลที่สนใจเข้าศึกษา คนที่จะเข้าเรียนไม่ต้องสอบข้อเขียน แต่จะใช้การสอบสัมภาษณ์ ทั้งนี้จะเปิดเรียนได้ในเดือน พ.ค. 2560
นายสุเทพกล่าวต่อว่า สถาบันพระมหากษัตริย์สำคัญที่สุด สำหรับประเทศไทย หากไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ป่านนี้ประเทศไทยแตกแยกไปไม่รู้เป็นกี่ประเทศแล้ว วันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.) ก็จะมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ คือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณฯ เมื่อวาน (29 พ.ย.) รัฐบาลและรัฐสภาได้มีความเห็นตรงกันที่จะกราบบังคมทูลอัญเชิญพระองค์ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ พวกเราที่เป็นคนไทยมีหน้าที่ถวายความจงรักภักดี พระองค์จะเป็นศูนย์รวมใจพาคนไทยทั้งประเทศไปสู่ความเจริญมั่นคงที่เกิดแก่ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย
สำหรับโครงการโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครั้งนี้ (รุ่นที่ 20) มีผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชารวม 118 คน มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ จากจังหวัดต่างๆ เช่น สุราษฎร์ธานี ยะลา พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช ระยอง ขอนแก่น และพะเยา มีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนนับพันคน การบรรพชาแบ่งออกเป็น 2 วันคือวันที่ 30 พ.ย.และวันที่ 1 ธ.ค. 2559 โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศล มีระยะเวลาในการบรรพชา 30 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในพิธีบรรพชาอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศลในวันนี้ที่บริเวณทางเดินจากหน้าโรงมหรสพทางวิญญาณไปยังลานหินโค้งที่ประกอบพิธีบรรพชา ทางมูลนิธิฯ ได้นำแผ่นป้ายที่มีภาพเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจด้านต่างๆ ภาพพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ ภาพโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาตั้งแสดง ได้รับความสนใจจากผู้มาร่วมงานในครั้งนี้เป็นอย่างมากด้วย