xs
xsm
sm
md
lg

ไม้เด็ด “ลุงตู่” โปรยเงินสู่รากหญ้า “แย่งความรัก” พรรคการเมืองจ๊าก !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา

จะเรียกว่าแผน “แย่งชิงประชาชน” ก็ว่าได้สำหรับมาตรการล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ออกมาเป็นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ให้จ่ายเงินเข้าบัญชีผู้มีรายได้น้อยตามเกณฑ์ที่กำหนดรายละ 1,500 - 3,000 บาท ผ่านบัญชีของธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออมสิน และ กรุงไทย และมีมติอนุมัติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีก 5 - 10 บาท ใน 69 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเริ่มดำเนินการและมีผลตั้งแต่วันที 1 - 30 ธันวาคม สำหรับเงินช่วยเหลือคนมีรายได้น้อย ส่วนค่าแรงขั้นต่ำมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้า

แน่นอนว่า รายการแบบนี้มันย่อมกระแทกเข้าไปกลางอกของบรรดาพรรคการเมือง และนักการเมือง ที่เคยหากินด้วยเรื่อง “ประชานิยม” มานาน เมื่อเจอย้อนศรเข้าไปแบบนี้ มันถึงได้ร้องจ๊าก ดาหน้าออกมาโวยวายกันยกใหญ่ โดยเฉพาะจากพรรคเพื่อไทยที่ถือว่านำมาใช้สร้างคะแนนนิยมจนชาวบ้านติดกันงอมแงม

อย่างไรก็ดี จากการชี้แจงของรัฐบาล ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่ประชานิยม และเป็นการแจกเพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยเป็นการจ่ายเงินเข้าบัญชีคนที่มีรายได้น้อยตามเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้ และมีการขึ้นบัญชีลงทะเบียนกันไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยคร่าวๆ คือ คนที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 3 หมื่นบาท ก็รับไป 3 พันบาท ส่วนที่มีรายได้ต่อปีเกิน 3 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท ก็รับไป 1,500 บาท ซึ่งจากตัวเลขมีคนที่มีรายไดีน้อยตามเกณฑ์ที่ว่านี้ประมาณ 6 ล้านคน ใช้งบประมาณ 12,750 ล้านบาท

สำหรับมาตรการดังกล่าวที่ออกมา รัฐบาลย่อมต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในช่วงซบเซา ซึ่งมีผลกระทบต่อรายได้ ซึ่งคาดว่าจะมีออกมาเป็นแพกเกจเพิ่มเติมเข้ามาอีก โดยฟังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ย้ำว่า ในต้นปีหน้าจะกระตุ้นการท่องเที่ยว และการลงทุนเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

แน่นอนว่า การแจกเงินให้กับคนมีรายได้น้อย มองอีกด้านหนึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ผลเหมือนกัน โดยเฉพาะการใช้จ่ายของคนมีรายได้น้อย เมื่อได้รับเงินก็จะใช้จ่ายทันที ซึ่งสามารถกระตุ้นจากระดับล่างขึ้นมา หากบวกกับมาตรการในการกระตุ้นการลงทุน การท่องเที่ยว รวมไปถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในโครงการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ให้เป็นไปตามกำหนด ก็เชื่อว่า น่าจะกลายเป็นแรงส่งได้อย่างมีพลังพอสมควร

สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่กล่าวว่ารู้สึกแสลงใจกับคำว่า “แจกเงิน” แต่ให้ใช้คำว่า “ช่วยเหลือ” มากกว่า ก็แล้วแต่จะเรียก แต่ความหมายก็คือแจกนั่นแหละ แต่แจกแล้วได้ผลหรือไม่ ตรงเป้าหรือไม่ต่างหาก

ขณะเดียวกัน ในทางการเมืองถือว่างานประเภทย่อม “ได้แต้ม” เป็นธรรมดา และก็เป็นธรรมดาที่บรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายจะต้องหาทางกีดกัน หรือดิสเครดิต เหมือนกับว่า นี่คือ การ “แย่งชิงความรัก” จากประชาชน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ลอกแบบโครงการประชานิยมจากต่างประเทศใช้เงินงบประมาณเข้ามา “หว่าน” จนได้คะแนนเสียงจนชาวบ้านเสพติดมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าในหลักการ คือ การ “แจก” แต่รายละเอียดอาจจะต่างกัน นั่นคือ เน้นแจกเฉพาะคนที่มีรายได้น้อยจริงๆ ตามที่ลงทะเบียนเอาไว้ และสำหรับใช้ต่อยอดความช่วยเหลืออื่นๆ ที่จะตามมา เหมือนกับเป็น “สวัสดิการ” ให้กับคนจนกลายๆ หากมองแบบนี้มันก็ไม่เสียหาย เหมือนกับการอุ้มชูคนที่ด้อยโอกาสได้บ้าง

แม้ว่าจะมีเป้าหมายทั้งเรื่องช่วยผู้มีรายได้น้อย การกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะที่กำลังซบเซาให้กระเตื้องขึ้นมา แต่อีกด้านหนึ่งมันก็ย่อมได้รับคะแนนเสียง ได้ความนิยมจากชาวบ้านในวงกว้างกลับมาด้วย ขณะเดียวกัน แม้จะมีเสียงดิสเครดิตจากพรรคการเมือง หรือนักการเมืองออกมาบ้าง แต่คงไม่กล้าขัดขวางการแจกเงินหรอก เพราะนั่นเท่ากับว่า ไปเพิ่มความเกลียดชังเพิ่มขึ้น ดังนั้น งานนี้สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่านี่คือไม้เด็ดส่งท้ายปีต่อเนื่องไปจนถึงปีใหม่ ที่หวังผลได้ไปถึงอนาคตยาวๆ กันเลยทีเดียว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น