นายกรัฐมนตรี เผย เตือนข้าราชการเซลฟีในวังแล้ว อย่าพร่ำเพรื่อ เคารพสถานที่บ้าง ไม่ยุ่งสหรัฐฯ ไม่ให้วีซ่านักพูดสาว ต้องเคารพสิทธิ์ ถามพฤติกรรมเหมือน “ทรัมป์” ดีหรือไม่ดี รับพูดจริงใจไปอาจไม่สุภาพ แต่เป็นเรื่องของตน ยันไม่เคยโกรธ จบแค่นั้น มีโมโหก็เป็นบุคลิกส่วนตัว สิ่งไม่ดีก็อย่าเอาไปเป็นตัวอย่าง
วันนี้ (15 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้าราชการถ่ายรูปเซลฟีในพระบรมมหาราชวัง ว่า ได้มีการเตือนไปแล้ว ว่า เป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม บางทีก็ต้องเห็นใจ ข้าราชการก็คือประชาชนเหมือนกัน ข้าราชการระดับเล็กๆ ได้เข้าวังก็ต้องการจะถ่ายรูปบ้าง แต่มันไม่เหมาะสมก็อย่าไปว่ากล่าวกันมากมายนักเลย ซึ่งตนเองได้เตือน และสั่งการไปแล้วว่า ถ้ากรณีที่พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯ ไม่ควรใช้โทรศัพท์ และก่อนที่พระองค์ท่านจะเสด็จฯ ก็ให้พิจารณาดูเหตุผลอันสมควร อย่าใช้กันพร่ำเพรื่อ เคารพในสถานที่บ้าง เพราะเป็นเขตพระราชฐานในสำนักพระราชวัง
นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สหรัฐฯ ปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับ น.ส.อรพิมพ์ รักษาผล หรือ เบสท์ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ที่จะไปพูดเกี่ยวกับเรื่องพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่นครลอสแองเจลิส ว่า ตนคงไม่ไปก้าวก่ายเกี่ยวกับสถานทูต และประเทศสหรัฐฯ เพราะวันนี้ตนเองดูแลเฉพาะประเทศไทย การไปขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศ แล้วเขาจะให้หรือไม่ เป็นเรื่องของสหรัฐฯ ตนพูดอะไรไม่ได้ ถือเป็นเรื่องของเขา เช่นเดียวกับเรา เวลาใครมาขออนุญาตทำวีซ่าถ้าไม่เหมาะสม ก็ไม่ออกวีซ่าให้ ไม่ใช่ว่าตนจะไปบอกว่าให้ออกหรือไม่ออก เป็นเรื่องที่สหรัฐฯ ที่จะพิจารณาเอง ต้องเคารพในสิทธิของเขา เป็นเรื่องสิทธิ์ของแต่ละประเทศ ที่เขามีสถานทูตประจำอยู่ว่าจะให้หรือไม่ แม้แต่ตนไปขอเขาก็ไม่ได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการวิจารณ์พฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ คล้ายกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ว่า “ไม่รู้เหมือนกัน แล้วดีหรือไม่ดี ซึ่งบางอย่างผมไม่ใช่นักการเมือง เวลาพูดอะไรก็จะพูดไปตามความเชื่อในหลักการ และข้อเท็จจริงตามกฎหมาย บางครั้งสิ่งที่พูดคือความจริงใจมากเกินไป อาจจะไม่สุภาพบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องของผม แต่เจตนาของผมไม่ได้มีอะไรกับใครทั้งสิ้น และเมื่อพูดไปแล้วก็ไม่เคยโกรธใคร จบแค่นั้น แล้วก็ไปทำเรื่องอื่น วันหน้าก็อาจจะมีโมโหอีก เพราะมันเป็นบุคลิกส่วนตัวของผม อาจเป็นสิ่งไม่ดีของผม อย่าเอาไปเป็นตัวอย่าง แต่ดีๆ ก็มีอยู่เยอะพอสมควร”