ทีมสำนักเลขาฯ เพื่อไทย แนะ “ประยุทธ์” เร่งศึกษาผลกระทบไทยหลัง “ทรัมป์” นั่งผู้นำมะกัน เร่งหามาตรการช่วยคนไทยลอบเข้าสหรัฐฯ ถูกกวาดล้าง พร้อมรับมือผลกระทบทาง ศก.จากนโยบายทำเนียบข่าวใหม่ที่ไทยได้รับผลกระทบ จี้ใช้บัวแก้วให้เหมาะสม อย่าเห็นเป็นแค่เครื่องมือสร้างภาพ-ล็อบบี้ ตปท.
วันนี้ (10 พ.ย.) ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต ทีมสำนักเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะว่า สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องรีบทำก็คือการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย และเตรียมมาตรการรองรับไว้แต่เนิ่นๆ เพราะนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าจะดำเนินกวาดล้างชาวต่างชาติที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในสหรัฐฯ ซึ่งอาจมีคนไทยรวมอยู่ด้วย ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องสั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบตัวเลขว่ามีคนไทยที่ลักลอบอยู่ในสหรัฐฯ จำนวนเท่าไหร่ และต้องเตรียมมาตรการช่วยเหลือคนไทยเหล่านั้นตั้งแต่เนิ่นๆ อย่ารอจนกระทั่งเกิดปัญหา หรือเกิดดรามาในโลกโซเชียลฯ แล้วค่อยมาโอดครวญว่าไม่มีปัญญาที่จะแก้ไข
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเตรียมรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจจากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ด้วย เพราะนักวิเคราะห์ทั่วโลกประเมินว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ จะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในลักษณะปกป้องตัวเอง หรือ Protectionism โดยสหรัฐฯ อาจออกมาตรการกีดกันทางการค้า หรือการตั้งกำแพงทางการค้า ทั้งในรูปของภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี เพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมทั้ง อาจทบทวนเงื่อนไขทางการค้ากับประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะในระดับทวิภาคี หรือพหุภาคี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้าในทางลบ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มสูงที่สหรัฐฯ จะออกมาตรการทางภาษีเพื่อจูงใจนักลงทุนสหรัฐฯ ให้กลับไปลงทุนภายในสหรัฐฯ เท่ากับว่าการลงทุนของบริษัทข้ามชาติของสหรัฐฯ ในต่างประเทศจะลดปริมาณลง โดยเฉพาะการค้ากับจีน ซึ่งแม้จีนจะแสดงท่าทีว่ายินดีร่วมมือกับรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าภายใต้การนำของนายทรัมป์ สหรัฐฯ จะมีมาตรการที่แข็งกร้าวกับจีนมากขึ้น หากเป็นเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อไทยด้วย เพราะเมื่อจีนส่งออกไปสหรัฐฯ น้อยลง จีนก็จะลดปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบต่วงๆ จากภูมิภาคเอเซีย และอาจถอนการลงทุนในภูมิภาคเอเชียด้วย ซึ่งไทยอาจได้รับผลกระทบ เช่น สูญเสียรายได้จากการส่งออก หรือคนไทยอาจตกงานมากขึ้น เป็นต้น
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องระดมสมองเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เพื่อศึกษาแนวโน้มดังกล่าว โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ควรมอบหมายภารกิจให้เหมาะสมกับหน้าที่ อย่าเห็นกระทรวงการต่างประเทศเป็นเพียงเครื่องมือในการสร้างภาพให้ตัวเอง เช่น ใช้ให้ออกมาแก้ตัวแทนเวลาถูกชาวโลกประณามว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือสั่งเจ้าหน้าที่ทูตให้ไปล็อบบี้ต่างชาติเพื่อให้เขาเชิญท่านไปร่วมวงประชุมที่เมืองนอก เพื่อลดปมด้อยที่ถูกมองว่าต่างชาติไม่ยอมรับ เนื่องจากมีที่มาจากการยึดอำนาจ ถ้าทำแบบนั้น ก็แสดงว่าจ้องแต่จะสร้างภาพให้ตัวเอง โดยไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทย เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน แถมยังน่าสงสัยด้วยว่า เบื้องหลังการล็อบบี้เพื่อให้ท่านได้ไปต่างประเทศนั้น ได้มีการนำผลประโยชน์ของประเทศไปแลกมาด้วยหรือเปล่า
