ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่ออายุรถเมล์-รถไฟฟรี อีก 6 เดือน หวังเป็นครั้งสุดท้าย อยากให้คนจนจริงๆ ได้สิทธิ์ ระบุกรมสรรพากรกำลังเช็กข้อมูลลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย คาดเสร็จเดือนนี้ ออกบัตรให้ใช้เมื่อสิ้นสุดมาตรการ พ.ค. 60
วันนี้ (8 พ.ย.) นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ในการขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนด้านการเดินทางออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2559 - 30 เม.ย. 2560 คิดเป็นวงเงินชดเชยรวมทั้งสิ้น 2,268 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณไปพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายจากการดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนด้านการเดินทางต่อไป
นายณัฐพรกล่าวว่า สำหรับมาตรการลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง ดำเนินการผ่านองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยรัฐรับภาระค่าใช้จ่ายการจัดรถโดยสารประจำทางธรรมดา (รถร้อน) จำนวน 800 คัน/วัน ใน 73 เส้นทาง ให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งได้ประมาณการค่าใช้จ่ายในวงเงิน 1,783 ล้านบาท
ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์กล่าวว่า ส่วนมาตรการลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการเดินทางโดยรถไฟชั้น 3 ดำเนินการผ่านการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยรัฐรับภาระค่าใช้จ่ายจัดรถไฟชั้น 3 เชิงสังคม จำนวน 152 ขบวน/วัน และรถไฟชั้น 3 ระยะทางไกลในขบวนเชิงพาณิชย์ จำนวน 8 ขบวน/วัน ให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งได้ประมาณการค่าใช้จ่ายในวงเงินจำนวน 585 ล้านบาท พร้อมขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดดำเนินการนำระบบตั๋วร่วมมาใช้ในการเชื่อมการเดินทางสาธารณะของประชาชนอย่างครบวงจรให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์กล่าวว่า ทั้งนี้ในอนาคตรัฐบาลคาดหวังว่าจะให้สิทธิประโยชน์ด้านการเดินทางนี้เฉพาะสำหรับกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย ระหว่างนี้กรมสรรพากรกำลังตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ และกระทรวงคมนาคมจะได้ออกบัตรให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย เพื่อจะได้มาใช้สวัสดิการเหล่านี้ โดยเมื่อสิ้นสุดการต่ออายุมาตรการในรอบนี้ ตั้งแต่ พ.ค. 2560 เป็นต้นไป จะเริ่มให้ใช้บัตรผู้มีรายได้น้อยได้
“ที่ผ่านมาแต่ละรัฐบาลได้มีการต่ออายุโครงการรถเมล์-รถไฟฟรี ไปแล้ว 20 ครั้ง โดยล่าสุดเป็นครั้งที่ 21 ซึ่งหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีโครงการนี้แล้ว เพราะจุดประสงค์คือต้องการโฟกัสไปยังคนที่จนจริงๆ ไม่ใช่ใครก็ขึ้นได้หมด” ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ระบุ