รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต ซัดกลุ่มการเมืองเอาปัญหาข้าวไปขยายผล จนส่อบานปลาย จี้รัฐเดินเกมรุก เยียวยาเฉพาะหน้า จับตาพวกบิดเบือน วอนสังคมช่วนกันเปิดโปง แนะ “ยิ่งลักษณ์” ยอมรับความจริงข้าวล้นสต๊อกต้นเหตุจากจำนำข้าว แนะ “ประยุทธ์” ใช้วิกฤตเป็นโอกาส ทำแผนปฏิรูประบบข้าวและภาคเกษตรครบวงจร ต้องกล้าทำแม้ชาวนาไม่ได้ประโยชน์ระยะสั้น
วันนี้ (6 พ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวว่า ตนเห็นว่า ในขณะนี้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำกำลังไต่ระดับเป็นปัญหาชาวนากับรัฐบาล เพราะเริ่มมีกลุ่มการเมืองเอาไปขยายผลจนอาจขยายวงกว้างบานปลายได้เช่นกัน จึงมีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องทำงานเชิงรุก นอกจากการวางมาตรการเยียวยาเฉพาะหน้าอย่างเข้าถึงและทันท่วงทีแล้ว ยังต้องจับตาขบวนการปล่อยข่าวบิดเบือนในหมู่ชาวนาที่มีเครือข่ายการเมืองอยู่เบื้องหลัง
“เราห้ามคนพวกนี้ไม่ได้เพราะเป็นกลุ่มคนที่หาประโยชน์ทางการเมืองจากชาวนามาตลอด จึงเป็นหน้าที่ที่สังคมต้องช่วยกันเปิดโปงตีแผ่และประณามคล้ายๆ กับบทเรียนกรณีจำนำข้าวที่สังคมช่วยกันเปิดโปงมาแล้ว” นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวว่า ราคาข้าวตกต่ำช่วงนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากข้าวล้นสต๊อกในโครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ดจากรัฐบาลเก่ายังขายไม่ออก ทำให้ข้าวล้นตลาด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย ก็ต้องยอมรับความจริงข้อนี้ อย่าตัดตอนปัญหาหรือดรามาจนเกินงาม ที่สำคัญรัฐบาลควรแปรวิกฤตเป็นโอกาส ทำแผนปฏิรูประบบข้าว และภาคการเกษตรทั้งระบบครบวงจร ไม่เช่นนั้นเรื่องข้าวและปัญหาชาวนาจะถูกนำไปใช้ชิงความได้เปรียบทางการเมืองตลอดเวลา ซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุและชาวนาก็ไม่ได้หลุดพ้นจากความยากจนเสียที
“เรากำลังจะเขียนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เรื่องข้าวและอนาคตของชาวนาภาคการเกษตร ควรเป็นเรื่องสำคัญ และเรื่องใหญ่ที่สุดของแผนยุทธศาสตร์ชาติวิกฤตครั้งนี้ รัฐบาลต้องลงมือปฎิรูปวางแนวทางแก้ปัญหาระยะยาวระดมความเห็นทุกภาคส่วน บางมาตรการอาจไม่ถูกใจชาวนาในระยะสั้น แต่สามารถช่วยชาวนาในระยะยาวได้ก็ต้องกล้าทำ ยิ่งเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากพรรคการเมืองไม่หวังคะแนนนิยมวูบวาบยิ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะปฏิรูปกันได้ทั้งระบบ” นายสุริยะใส กล่าว