xs
xsm
sm
md
lg

พบเว็บหมิ่นเบื้องสูงพุ่ง 1,200 ชื่อ “ยูทูป” เยอะสุด “ประจิน” แจงใช้ คสช.แบน-พึ่งศาลสั่งปิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
รองนายกรัฐมนตรี เผย 1 เดือนที่ผ่านมา ที่อยู่เว็บไซต์หมิ่นสถาบันเพิ่มสูงขึ้น 1,200 ชื่อ ใช้อำนาจ คสช. ปิดไปส่วนหนึ่งแล้ว และร่วมมือกับศาลสั่งปิด พบ “ยูทูป” มีเยอะที่สุด ยืนยันทำทุกวิถีทางป้องกัน แจงกำลังประสานคุยกับเฟซบุ๊ก หลังมีหนังสือพร้อมให้ความร่วมมือ

วันนี้ (2 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.20 น. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการติดตามเว็บไซต์หมิ่นสถาบันเบื้องสูง ว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างประสานกับทางเฟซบุ๊ก ซึ่งเฟซบุ๊กได้มีหนังสือส่งกลับมา 2 ฉบับ ว่า พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ และจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงพร้อมที่จะตอบสนองต่อคำขอของไทยทันที เพราะเข้าใจสถานการณ์ และความรู้สึกของคนไทย อย่างไรก็ตาม เราก็ได้ประสานไปอีกครั้ง ว่า อยากพูดคุยกันต่อหน้า ซึ่งสถานที่จะเป็นไทยหรือสิงคโปร์นั้น อยู่กับประสานงานอยู่ โดยเราอยากพูดคุยภายในสัปดาห์นี้ แต่เฟซบุ๊กยังไม่พร้อม โดยจะไปคุยกับผู้บริหารระดับสูงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนไทยได้ตั้งศูนย์ประสานงานไซเบอร์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อประสานงานอยู่ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ทำหน้าที่ประสานงานกับชุดปฏิบัติงานต่าง ๆ เพื่อให้รู้ว่า หากมอนิเตอร์เจอเรื่องหมิ่นสถาบัน จะต้องมีการดำเนินการอย่างไร โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. เป็นที่อยู่เว็บที่อยู่ไทย ก็ใช้คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งปิดได้ทันที และ 2. ที่อยู่เว็บอยู่ในต่างประเทศก็ต้องออกคำสั่งศาลเพื่อขอให้ปิด รวมทั้งขณะนี้เราได้เชิญบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทุกสายงานเข้ามาร่วมทำงานด้วย

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 - 12 ต.ค. ที่ผ่านมา เราพบที่อยู่เว็บไซต์ (ยูอาร์แอล) ที่เข้าข่ายไม่เหมาะสมประมาณ 100 ยูอาร์แอล (ชื่อ) และช่วงวันที่ 13 - 31 ต.ค. ประมาณ 1,200 ยูอาร์แอล โดยเราได้ใช้อำนาจ คสช. ปิดไปแล้วทั้งสองช่วง 200 ยูอาร์แอล ส่วนที่เหลือใช้อำนาจศาล 700 ยูอาร์แอล จาก 1,150 คดี ถือว่าคิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยเราได้รับความร่วมมือจากศาลเป็นอย่างดีในการเร่งรัดการทำธุรการ รวมถึงผู้ให้บริการ ทั้งทางผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ภายในประเทศ และบริษัทใหญ่ที่เป็นต้นทาง ซึ่งเว็บไซต์ที่มียูอาร์แอลหมิ่นสถาบันมากที่สุด คือ เว็บไซต์ยูทูป แต่อย่างไรก็ตาม ยูทูปได้มีเปอร์เซ็นต์ปิดมากที่สุด

“ยืนยันว่า เราพยายามทำทุกทางในการดำเนินการ เพื่อป้องกันและลดการโพสต์ข้อความ หรือคลิปภาพ เสียง ที่ไม่เหมาะสม โดยเราได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายด้วยดี ทั้งนี้ อยากให้ประชาสัมพันธ์ผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ว่า ให้พิจารณาการกดไลก์กดแชร์ หากเห็นว่าไม่เหมาะสมก็ควรหลีกเลี่ยง หรือลบทิ้ง รวมถึงอย่าไปให้ค่ากับผู้ที่ดำเนินการลักษณะมากนัก” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

เมื่อถามว่า แอปพลิเคชันไลน์ เว็บไซต์เฟซบุ๊ก เว็บไซต์กูเกิล ยืนยันว่า ยังเคารพสิทธิของผู้ใช้งาน และไม่ได้ร่วมมือเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ กับรัฐบาลไทย พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ที่เขาร่วมมือกับเรา คือ ภายใต้กฎหมาย ซึ่งผู้ให้บริการก็มีกติกาในการรักษาความลับของผู้ลงทะเบียน รวมถึงไม่เปิดเผยสิ่งที่ผู้ลงทะเบียนไม่อนุญาต ขอยืนยันว่าเขาไม่ได้ร่วมมือกับเราเพื่อไปบล็อกเสรีภาพของผู้ใช้

เมื่อถามย้ำว่า เขาจะดำเนินการให้เรา เมื่อเรามีการร้องขอใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นไปตามนั้น เพราะที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ส่วนเราในฐานะผู้เดือดร้อน
กำลังโหลดความคิดเห็น