รัฐมนตรีสำนักนายกฯ เผยที่ประชุม ศตส.ยันยังไม่ใช้ระบบบัตรคิว เตรียมแผนรับมือนักท่องเที่ยวเข้าวัดพระแก้วตามปกติ คาดพรุ่งนี้ทางเข้าออกชัด ด้านโฆษกรัฐบาลระบุนายกฯ สั่งรองนายกรัฐมนตรี “ธนะศักดิ์” ถกสถานบันเทิง 31 ต.ค.หาข้อยุติ ขณะที่ผู้ตรวจราชการคมนาคมขอบคุณชาวบ้านไม่นำรถเข้าสนามหลวง
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) แถลงหลังการประชุม ศตส. ว่าที่ประชุมได้มีการหารือในเรื่องแนวทางการปฏิบัติการปรับพื้นที่ท้องสนามหลวง การจัดระบบบัตรคิว ซึ่งจะยังไม่ใช้ระบบบัตรคิว เพราะมีประชาชนเป็นจำนวนมากต้องการเข้าไปถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หากมีการแจกบัตรคิวจะทำให้สามารถเข้าไปในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทได้เพียง 10,000 คนเท่านั้น แต่ถ้าจัดเป็นกลุ่มแบบเมื่อที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมาจะสามารถเปิดให้ประชาชนเข้าไปถึง 30,000 คน สำหรับปัญหาที่พบ ได้แก่ สุขภาพอนามัย การเจ็บป่วย และการต่อคิวยาว
“ที่ประชุมวันนี้ยังได้หารือในการเตรียมการในวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งจะเป็นวันแรกที่พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตามปกติ โดยกรมการท่องเที่ยวได้ประสานงานกับสำนักพระราชวังหารือกันถึงข้อปฏิบัติซึ่งจะสรุปชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (31 ต.ค.) ทั้งเรื่องการจัดการจราจร ทางเดินเข้า-ออก ระหว่างประชาชนที่จะเข้าถวายบังคมพระบรมศพและนักท่องเที่ยว รวมทั้งการปฏิบัติต่างๆ” นายสุวพันธุ์กล่าว
ส่วน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ขณะนี้ประชาชนจำนวนมากมาใช้บริการพื้นที่ท้องสนามหลวง จากตัวเลขที่ กทม.รายงานได้จัดเตรียมอาหาร รวมถึงขนมและน้ำดื่มไว้ประมาณ 210,000 ชุดต่อวัน ขณะที่ประชาชนที่เข้าเฝ้าฯ ถวายสักการะพระบรมศพได้ประมาณ 3 หมื่นคนต่อวัน มีตัวเลขที่แตกต่างกันอยู่มาก เชื่อว่าประชาชนส่วนหนึ่งมาฟังพระสวดอภิธรรม
สำหรับภาคธุรกิจบันเทิงนั้น นับแต่วันที่ 13 ตุลาคมรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนให้ประกอบการได้ตามปกติแต่เฉพาะอยู่ในสถานที่ปิดในภายในอาคาร อยู่บนดาดฟ้า และโรงแรมที่ติดกับชายหาด จัดกิจกรรมในพื้นที่ได้ และเมื่อครบ 30 วันนับจากวันที่ 13 ตุลาคม ธุรกิจต่างๆ จะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ แต่ขณะนี้เกิดกระแสสังคมของภาคธุรกิจบันเทิง นายกฯ จึงได้สั่งให้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ประกอบการ นายกสมาคมธุรกิจสถานบันเทิง ประชุมหารือในวันที่ 31 ตุลาคม เพื่อให้ได้ข้อยุติข้อปฏิบัติที่ชัดเจนของกลุ่มธุรกิจ กระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะเริ่มปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน และวันที่ 30 ตุลาคม นายสุวพันธุ์จะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้นก่อน
ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม (คค.) แถลงว่า ขอขอบคุณประชาชนที่เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการไม่นำรถส่วนตัวเดินทางเข้ามาในท้องสนามหลวง และเลือกใช้บริการสาธารณะแทน ทั้งรถชัตเติลบัสขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มีผู้ใช้บริการวันที่ 29 ตุลาคมถึง 128,627 คน และผู้ใช้บริการระบบการเดินทางทางน้ำผ่านท่าเรือสำคัญๆ รอบสนามหลวงรวมทั้งสิ้น 62,000 คน รวม 190,627 คน ยังไม่รวมการขนส่งคนผ่านเอกชนที่นำรถมาช่วยวิ่งรับผู้โดยสารรอบสนามหลวงและเดินเท้าเข้ามา ทั้งนี้ ยอดรวมตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมเป็นต้นมาทั้งสองระบบเดินทางมาสนามหลวง รวมทั้งสิ้น 2,800,000 คน ส่วนความปลอดภัยในการเดินทางทางน้ำเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมาเราไปตรวจสอบความปลอดภัยก็เป็นไปได้ด้วยดี ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยการไม่รอขึ้นเรือที่โป๊ะ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำเพื่อความปลอดภัย และขอความร่วมมือให้ประชาชนที่จะเดินทางไปไม่นำรถส่วนตัวเข้าไปในพื้นที่สนามหลวง โดยให้นำรถไปจอดยังพื้นที่ที่รัฐบาลจัดไว้รองรับ 10 จุดแทน