อดีต ส.ส. ปชป. อึ้ง ปูนบำเหน็จคนเอี่ยวทุจริตนั่งรองผู้ว่าฯ กทม. ถาม “อัศวิน” ลืมคำแนะนำ “ชวน” แล้วหรือ พร้อมถามใจ “ประยุทธ์” ที่มุ่งมั่นปราบคอร์รัปชัน ควรเซ็นแต่งตั้งตั้งหรือไม่ ชมตั้ง “รอยล” เป็นที่ปรึกษาดูแลน้ำ แต่เชื่อคงทำงานได้ยาก แนะ “บิ๊กตู่” ใช้ ม.44 ยึด คู คลองสาธารณะ ที่ถูกผู้มีอำนาจ หมู่บ้านจัดสรร ถมทับ
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เสนอชื่อรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ความเห็นชอบและเซ็นแต่งตั้งนั้น ทั้งทีมรองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร และคณะที่ปรึกษา เมื่อ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร ได้ยินรายชื่อแล้วถึงขั้นอุทานว่าโอ้โห ส่วนข้าราชการที่สุจริตและพ่อค้าคงร้องจ๊าก กันเป็นแถว แสดงว่า ที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ได้แนะนำ พล.ต.อ.อัศวิน ว่า ให้ชวนคนดีเข้ามาร่วมงานนั้น พล.ต.อ.อัศวิน คงไม่ได้ยิน หรืออาจมีข้อจำกัดบางประการ
นายวัชระ กล่าวว่า ในฐานะอดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร ได้ยินมาว่า มีบางคนที่ ข้าราชการด้วยกันเอง และบริษัทห้างร้านรู้จักดีว่าโกงมากเพียงใด ขนาดลูกจ้างกวาดถนนก็รู้ ป.ป.ช. และ สตง. ก็ยังสอบอยู่ ตนก็ยังแปลกใจว่ามีชื่อออกมาได้อย่างไร อาทิ นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการกองจราจรและขนส่ง หนึ่งในทีมรองผู้ว่าฯ ก็เป็นบุคคลที่บอก นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครขณะนั้น ว่า ไม่สามารถจะให้สัญญาจัดซื้อจัดจ้างกล้อง CCTV กับนายวัชระได้ โดยนายทวีศักดิ์ไม่รู้ว่าตนได้ยินเสียงพูดทางโทรศัพท์ที่นายอรรถวิชช์ เปิดลำโพงต่อหน้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
นายวัชระ กล่าวว่า จนถึงบัดนี้ นายทวีศักดิ์ ก็ยังไม่ส่งสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกล้อง CCTV ฉบับที่แท้จริงให้ตนแต่อย่างใด แล้วยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร อีก ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. ผู้มุ่งมั่นการปราบปรามการทุจริตก็ได้โปรดพิจารณาไตร่ตรองเอาเอง เพราะท่านเป็นคนเซ็นแต่งตั้ง ท่านก็ต้องรับผิดชอบในอนาคต
นายวัชระ กล่าวต่อว่า การแต่งตั้งรองปลัดกรุงเทพมหานคร ขนาดคนที่ สตง. ชี้มูลว่า มีความผิดในโครงการประดับไฟปีใหม่กรุงเทพมหานคร 39 ล้าน ก็ยังได้ปูนบำเหน็จเป็นรองปลัดกรุงเทพมหานคร แล้วจะหวังอะไรในเรื่องธรรมาภิบาลในกรุงเทพมหานคร คนที่ประกาศว่าจะเดินตามรอยพระราชดำรัสของในหลวง บางคนก็เป็นแค่การสร้างภาพเท่านั้น
“กรุงเทพมหานครเป็นของประชาชนทุกคน เมื่อผมเห็นควันกำลังจะก่อตัวขึ้น หน้าที่ของพลเมืองดี คือ ต้องบอกเจ้าของรัฏฐาธิปัตย์ทันที ส่วนจะเชื่อหรือไม่จะทำหรือไม่ก็เป็นหน้าที่ของท่าน แต่เราก็กล้าที่จะทำหน้าที่ตรงไปตรงมาตรงเวลาในฐานะอดีตส.ส. กรุงเทพมหานคร ที่ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ไม่ใช่ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาสร้างภาพพจน์ไปวัน ๆ”
นายวัชระ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็มีส่วนที่น่าชมเชย คือ การแต่งตั้ง นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารนิเทศน้ำและการเกษตรมาช่วยดูแลเรื่องน้ำในฐานะที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะ นายรอยล เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำอย่างแท้จริง แต่คงทำอะไรได้ยาก ถ้าเห็นลักษณะพื้นที่ทางกายภาพของกรุงเทพมหานคร ที่มีห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่, บ้านคนมีอำนาจ, หมู่บ้านจัดสรร, คนรวยรุกล้ำที่สาธารณะ, ถมคูคลองแอบยึดที่ลำประโดง, ปิดกั้นทางไหลของน้ำตามธรรมชาติเป็นจำนวนมาก เพราะจ่ายเงินให้เขตไปแล้ว มีบางคนที่จะได้รับการแต่งตั้งในชุดนี้มีส่วนเกี่ยวข้องที่สำคัญและปิดบังความผิดลักษณะนี้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพมหานครจริง ๆ ก็ต้องใช้อำนาจตาม ม.44 ประกาศยึดคูคลองลำประโดงในกรุงเทพมหานคร ตามแผนที่เดิมกลับคืนมาเป็นของหลวงทั้งหมด แต่ท่านจะกล้าทำหรือไม่ เพราะล้วนแต่กระทบคนมีหน้ามีตาทั้งสิ้น