รัฐบาลยันทุกหน่วยงานพร้อมรองรับประชาชนเดินทางไปยังพระบรมมหาราชวัง

โฆษกรัฐบาล ยัน ทุกหน่วยงานพร้อมรองรับประชาชนเดินทางไปยังพระบรมมหาราชวัง สุดสัปดาห์นี้ แนะใช้รถสาธารณะลดปัญหาจราจร ขณะเดียวกัน ขอให้ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคอาหารแห้ง และของใช้ ป้องกันการเน่าเสีย

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ 22 - 24 ต.ค. นี้ คาดว่า จะมีประชาชนเดินทางเข้า กทม. เป็นจำนวนมาก เพื่อไปยังพระบรมมหาราชวัง โดยทุกหน่วยงานได้เตรียมรองรับการเดินทางของประชาชนอย่างพร้อมเพรียงในทุกด้าน ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามขอให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่โดยเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องการจราจร ควรใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ เนื่องจากบริเวณโดยรอบท้องสนามหลวงเกิดปัญหารถติดอย่างมาก

“ขสมก. ได้เพิ่มรถเมล์ฟรีอีก 100 คัน ส่วน บขส. จัดเสริมรถโดยสารทุกเส้นทางเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 รองรับประชาชนได้วันละ 300,000 คน และ ร.ฟ.ท. ได้เพิ่มตู้โดยสารและขบวนรถเสริมพิเศษ 150 ขบวน โดยหากประชาชนเดินทางถึงสถานีขนส่ง หรือสถานีรถไฟใน กทม. แล้ว ขอความร่วมมือให้ใช้รถโดยสารสาธารณะที่ ขสมก. กทม. และกองทัพจัดไว้ให้ตามจุดต่าง ๆ และหากประชาชนทั่วไปต้องการทราบข้อมูลการจราจรให้ โทร.ไปที่สายด่วน 1197 ศูนย์ให้บริการข้อมูลจราจร สตช.”

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สำหรับการดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยนั้น รัฐบาลได้จัดตั้งจุดบริการ พม. เพื่อพ่อหลวง ในพื้นที่สนามหลวง ฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุ ให้บริการจัดทำป้ายคล้องข้อมือเด็ก ป้องกันการพลัดหลง และดูแลเด็กหากพลัดหลงกับผู้ปกครอง บริการรถเข็นเพื่อผู้สูงอายุและคนพิการ แจกยาดม ยาหม่อง ร่วมกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และรับบริจาคเสื้อผ้าเพื่อนำไปย้อมสีดำ สำหรับแจกจ่ายด้วย

“ท่านนายกฯ เป็นห่วงเรื่องอาหารที่ผู้มีจิตศรัทธานำไปบริจาคเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอาหารสดที่อาจเน่าเสียอย่างรวดเร็ว จึงขอให้หน่วยงานที่รับบริจาค หรือผู้มีจิตศรัทธาบริหารจัดการอาหารให้เพียงพอต่อจำนวนผู้ที่เดินทางไปยังท้องสนามหลวง หากมีมากเกินความจำเป็นให้ส่งต่อไปแจกจ่ายยังสถานีขนส่งต่าง ๆ ที่มีผู้โดยสารจำนวนมากเช่นกัน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้แนะนำให้ประชาชนเปลี่ยนไปบริจาคอาหารแห้ง อาหารซองสำเร็จรูป อาหารขบเคี้ยว เสื้อผ้าสีดำ เสื้อกันฝน ผ้าพลาสติก ผ้าขาวม้า ซึ่งยังมีความต้องการอีกมาก ทั้งนี้ หากมีจำนวนมากที่เหลือจากการแจกจ่าย ขอให้ส่งไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ ด้วย”