“บิ๊กเจี๊ยบ” ห่วงคนไม่แต่งดำถูกต้าน เตือนอย่าให้จุดเล็กๆ มาเป็นรอยด่างช่วงนี้ รับนโยบายนายกฯ สั่ง ทภ.1 ตั้งกองอำนวยการร่วมรักษาความเรียบร้อยรอบพระบรมมหาราชวัง เน้นประสานงาน-อำนวยความสะดวก ตั้งจุดพักคอยให้ ปชช.หน้าหน่วย นรด. รองรับพันคน พร้อมส่งชุดปฏิบัติการจิตวิทยาอธิบายการปฏิบัติตนให้ ปชช. พร้อมตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมด้านการแพทย์และสาธารณสุข พบคนส่วนมากเป็นโรคทางเดินหายใจ-อ่อนเพลีย-เครียด
วันนี้ (19 ต.ค.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ว่าไม่เป็นห่วงเรื่องของมิจฉาชีพจะแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุในช่วงนี้ เพราะคงไม่มีใครใช้สถานการณ์แบบนี้ซ้ำเติมคนไทยด้วยกันเอง แต่สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ คือ ปัญหาการจราจร โดยมอบหมายให้ กกล.รส.กองทัพภาคที่ 1 ตั้งกองอำนวยการร่วมที่สนามหลวงประสานงานกับตำรวจจัดระเบียบการจราจร และพบว่า 2 วันที่ผ่านมาทุกอย่างดีขึ้น แต่จำนวนประชาชนก็เข้ามาเพิ่มขึ้น รวมถึงการเข้ามาช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกของบรรดาจิตอาสาที่เดินทางมาแจกสิ่งของให้ประชาชน เพราะมีเข้ามาจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ จึงอยากอยากฝากว่าทุกคนมีหัวใจดวงเดียวกันเพื่อมาแสดงความอาลัยและมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่บางครั้งการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ไม่ทั่วถึงก็ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องมองในมุมความสงบเรียบร้อยปลอดภัยเป็นอันดับแรก รองลงมาคือการจราจร อาจทำให้ประชาชนบางคนไม่พอใจ จึงอยากขอให้มองในภาพรวมและช่วยกัน
ส่วนการใช้มาตรการทางสังคมกดดันคนที่แต่งกายและแสดงออกไม่เหมาะสมก็ยอมรับว่าเป็นห่วง นายกรัฐมนตรีได้พูดไปแล้วว่าทุกคนมีความจงรักภักดี มีความรักและอาลัยอาวรณ์ แต่สภาพความพร้อมของทุกคนอาจไม่เท่ากัน จึงขอให้ทุกคนเข้าใจซึ่งกันและกัน ขออย่าไปทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพราะประเทศชาติต้องการความสงบเรียบร้อย ความราบรื่น ไม่อยากให้จุดเล็กๆ เพียงจุดเดียวสร้างปมด่างให้เกิดขึ้นในช่วงนี้ ทั้งนี้ได้สั่งการให้ กกล.รส.อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมาแสดงความอาลัยแด่พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ให้เกิดความสะดวกสบายมากที่สุด ดังนั้นขณะนี้ทุกคนต้องช่วยกันทุกอย่าง โดยมีกองอำนวยการร่วมเป็นจุดประสานงาน
ด้าน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า คสช.ยังคงให้ความห่วงใยต่อการที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนทุกคนที่จะเดินทางมาเข้ากราบสักการะพระบรมศพ โดยมอบหมายให้ทุกกระทรวงทบวงกรมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ ยานพาหนะ สิ่งอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่ง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 1 ปฏิบัติตามคำสั่งและนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. จัดตั้งกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรอบพระบรมมหาราชวัง เพื่อประสานงานและอำนวยความสะดวกแก่ทุกภาคส่วนทั้งภาคราชการและเอกชน โดยตั้งที่ถนนสายกลาง สนามหลวง หมายเลขติดต่อ 0-2226-6801-3 ส่วนการแจกเสื้อของรัฐบาล โดยกระทรวงการคลังจำนวน 8 ล้านตัวนั้นจะแจกผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยไว้แล้ว สำหรับกิจกรรมการสวดมนต์เฉลิมพระเกียรติได้ปรับเปลี่ยนเป็นกิจกรรมสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า กองทัพบกยังคงร่วมกับทุกภาคส่วนดูแลความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง และพื้นที่สนามหลวง โดยเฉพาะเรื่องการบริการประชาชนนั้น ด้านการแพทย์ มอบหมายให้กรมแพทย์ทหารบกจัดชุดบริการทางการแพทย์เข้าดูแลประชาชนตั้งหน่วยให้บริการทางการแพทย์ 2 แห่ง คือ บริเวณถนนสายกลางมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และบริเวณหน้าศาลหลักเมือง รวมทั้งจัดตั้งเป็น “ศูนย์ปฏิบัติการร่วมด้านการแพทย์และสาธารณสุข” และโรงพยาบาลสนามขึ้นในบริเวณถนนสายกลางท้องสนามหลวง เพื่อการพักรอและสังเกตอาการ รวมทั้งได้จัดชุดเสนารักษ์และเจ้าหน้าที่เดินเท้าอีก 8 ชุด จากกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เคลื่อนที่ไปตามบริเวณต่างๆ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ผ่านมาผู้มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ อ่อนเพลีย เครียด
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวต่อว่า สำหรับการบริการอาหารและเครื่องดื่ม กองทัพภาคที่ 1 และกรมพลาธิการทหารบก ได้นำรถครัวสนาม 4 คัน, รถผลิตน้ำดื่ม1 คัน และรถบรรทุกน้ำ 1 คัน จัดเป็นแหล่งให้บริการอาหารและน้ำดื่ม โดยในส่วนของครัวสนามนั้นได้ทำการปรุงอาหารสด จำนวน 8,000 ชุดต่อวัน บริการประชาชนในมื้อกลางวัน และมื้อเย็น โดยมีจิตอาสาได้เข้ามาร่วมสนับสนุนวัตถุดิบ และมาร่วมปรุงอาหารอย่างต่อเนื่อง รถครัวสนามจอดให้บริการอยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ส่วนของการจัดที่พักคอยของประชาชนที่มารอถวายความอาลัยนั้น กองทัพบกได้ใช้พื้นที่บริเวณหน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ถ.เจริญกรุง เป็นจุดรับรองประชาชนได้จำนวน 1,000 คน มีบริการอาหาร น้ำ ปฐมพยาบาล เปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00-22.00 น. ตั้งแต่วันที่ 17-27 ต.ค. และตั้งแต่เวลา 16.00 น.ประชาชนสามารถนำรถมาจอดภายในหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนได้จำนวน 100 คัน นอกจากนี้กองทัพบกยังได้ส่งชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเข้าชี้แจงทำความเข้าใจและอธิบายการปฏิบัติตนให้แก่ประชาชนบริเวณรอบพื้นที่สนามหลวงอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (19 ต.ค.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ว่าไม่เป็นห่วงเรื่องของมิจฉาชีพจะแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุในช่วงนี้ เพราะคงไม่มีใครใช้สถานการณ์แบบนี้ซ้ำเติมคนไทยด้วยกันเอง แต่สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ คือ ปัญหาการจราจร โดยมอบหมายให้ กกล.รส.กองทัพภาคที่ 1 ตั้งกองอำนวยการร่วมที่สนามหลวงประสานงานกับตำรวจจัดระเบียบการจราจร และพบว่า 2 วันที่ผ่านมาทุกอย่างดีขึ้น แต่จำนวนประชาชนก็เข้ามาเพิ่มขึ้น รวมถึงการเข้ามาช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกของบรรดาจิตอาสาที่เดินทางมาแจกสิ่งของให้ประชาชน เพราะมีเข้ามาจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ จึงอยากอยากฝากว่าทุกคนมีหัวใจดวงเดียวกันเพื่อมาแสดงความอาลัยและมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่บางครั้งการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ไม่ทั่วถึงก็ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องมองในมุมความสงบเรียบร้อยปลอดภัยเป็นอันดับแรก รองลงมาคือการจราจร อาจทำให้ประชาชนบางคนไม่พอใจ จึงอยากขอให้มองในภาพรวมและช่วยกัน
ส่วนการใช้มาตรการทางสังคมกดดันคนที่แต่งกายและแสดงออกไม่เหมาะสมก็ยอมรับว่าเป็นห่วง นายกรัฐมนตรีได้พูดไปแล้วว่าทุกคนมีความจงรักภักดี มีความรักและอาลัยอาวรณ์ แต่สภาพความพร้อมของทุกคนอาจไม่เท่ากัน จึงขอให้ทุกคนเข้าใจซึ่งกันและกัน ขออย่าไปทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพราะประเทศชาติต้องการความสงบเรียบร้อย ความราบรื่น ไม่อยากให้จุดเล็กๆ เพียงจุดเดียวสร้างปมด่างให้เกิดขึ้นในช่วงนี้ ทั้งนี้ได้สั่งการให้ กกล.รส.อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมาแสดงความอาลัยแด่พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ให้เกิดความสะดวกสบายมากที่สุด ดังนั้นขณะนี้ทุกคนต้องช่วยกันทุกอย่าง โดยมีกองอำนวยการร่วมเป็นจุดประสานงาน
ด้าน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า คสช.ยังคงให้ความห่วงใยต่อการที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนทุกคนที่จะเดินทางมาเข้ากราบสักการะพระบรมศพ โดยมอบหมายให้ทุกกระทรวงทบวงกรมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ ยานพาหนะ สิ่งอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่ง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 1 ปฏิบัติตามคำสั่งและนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. จัดตั้งกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรอบพระบรมมหาราชวัง เพื่อประสานงานและอำนวยความสะดวกแก่ทุกภาคส่วนทั้งภาคราชการและเอกชน โดยตั้งที่ถนนสายกลาง สนามหลวง หมายเลขติดต่อ 0-2226-6801-3 ส่วนการแจกเสื้อของรัฐบาล โดยกระทรวงการคลังจำนวน 8 ล้านตัวนั้นจะแจกผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยไว้แล้ว สำหรับกิจกรรมการสวดมนต์เฉลิมพระเกียรติได้ปรับเปลี่ยนเป็นกิจกรรมสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า กองทัพบกยังคงร่วมกับทุกภาคส่วนดูแลความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง และพื้นที่สนามหลวง โดยเฉพาะเรื่องการบริการประชาชนนั้น ด้านการแพทย์ มอบหมายให้กรมแพทย์ทหารบกจัดชุดบริการทางการแพทย์เข้าดูแลประชาชนตั้งหน่วยให้บริการทางการแพทย์ 2 แห่ง คือ บริเวณถนนสายกลางมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และบริเวณหน้าศาลหลักเมือง รวมทั้งจัดตั้งเป็น “ศูนย์ปฏิบัติการร่วมด้านการแพทย์และสาธารณสุข” และโรงพยาบาลสนามขึ้นในบริเวณถนนสายกลางท้องสนามหลวง เพื่อการพักรอและสังเกตอาการ รวมทั้งได้จัดชุดเสนารักษ์และเจ้าหน้าที่เดินเท้าอีก 8 ชุด จากกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เคลื่อนที่ไปตามบริเวณต่างๆ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ผ่านมาผู้มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ อ่อนเพลีย เครียด
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวต่อว่า สำหรับการบริการอาหารและเครื่องดื่ม กองทัพภาคที่ 1 และกรมพลาธิการทหารบก ได้นำรถครัวสนาม 4 คัน, รถผลิตน้ำดื่ม1 คัน และรถบรรทุกน้ำ 1 คัน จัดเป็นแหล่งให้บริการอาหารและน้ำดื่ม โดยในส่วนของครัวสนามนั้นได้ทำการปรุงอาหารสด จำนวน 8,000 ชุดต่อวัน บริการประชาชนในมื้อกลางวัน และมื้อเย็น โดยมีจิตอาสาได้เข้ามาร่วมสนับสนุนวัตถุดิบ และมาร่วมปรุงอาหารอย่างต่อเนื่อง รถครัวสนามจอดให้บริการอยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ส่วนของการจัดที่พักคอยของประชาชนที่มารอถวายความอาลัยนั้น กองทัพบกได้ใช้พื้นที่บริเวณหน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ถ.เจริญกรุง เป็นจุดรับรองประชาชนได้จำนวน 1,000 คน มีบริการอาหาร น้ำ ปฐมพยาบาล เปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00-22.00 น. ตั้งแต่วันที่ 17-27 ต.ค. และตั้งแต่เวลา 16.00 น.ประชาชนสามารถนำรถมาจอดภายในหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนได้จำนวน 100 คัน นอกจากนี้กองทัพบกยังได้ส่งชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเข้าชี้แจงทำความเข้าใจและอธิบายการปฏิบัติตนให้แก่ประชาชนบริเวณรอบพื้นที่สนามหลวงอย่างต่อเนื่อง