เฟซบุ๊กนักข่าวดัง แจง “สำนักปลัดกลาโหม” เผยชื่อฝาย “แม่ผ่องพรรณพัฒนา” ที่ถูกปลดไปแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ เหตุชาวบ้าน อ.ฝาง เชียงใหม่ ช่วยกันตั้งชื่อ หลังร่วมพัฒนชุมชนใช้วัตถุดิบตามภูมิประเทศ อ้างไม่ได้ใช้งบประมาณมาก ย้อนเกิดจากคนใน กห.อกหักโยกย้ายทหารปี 59 หวังผลโจมตีคนนามสกุลเดียวกับบิ๊กตู่ เชื่อเป็นเป้าทางการเมือง เผยวันก่อนสมาคมแม่บ้าน กห.แจงแค่ป้ายต้อนรับ ไม่ใช่ชื่อฝายตั้งแต่ต้น เชื่อคนไม่หวังดีโจมตี
วันนี้ (19 ก.ย.) มีรายงานความคืบหน้ากรณีสังคมออนไลน์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเข้าตรวจชื่อฝายที่อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา ต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หลังมีคนใกล้ชิดในครอบครัวนำชื่อตัวเองไปตั้งเป็นชื่อฝายจนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีการเปิดเผยจากสมาคมแม่บ้านปลัดกระทรวงกลาโหมว่าป้ายดังกล่าวเขียนขึ้นมาเพื่อต้อนรับนายกสมาคมแม่บ้านเท่านั้น ไม่ใช่ชื่อฝาย และก็ได้ถอดป้ายออกแล้ว ทั้งนี้เชื่อว่ามีคนเจตนาไม่ดีนำเรื่องดังกล่าวไปโจมตีเพื่อให้เกิดความเสียหายขึ้น
ต่อมาเช้าวันนี้ เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam นักข่าวสายทหารและความมั่นคง รายงานว่า มีรายงานข่าวจากสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมชี้แจงกรณีการสร้างฝายที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องความไม่เหมาะสมนั้นว่า การสร้างฝายที่จุดนี้เป็นไปตามแนวคิดของนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา นายกสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกลาโหม ที่ได้หารือหน่วยในพื้นที่ตั้งแต่เมื่อ 23 ส.ค. 59 ในวันที่ได้ไปปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติที่ จ.ลพบุรี เพราะได้รับทราบปัญหาจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ว่าต้องการฝายจึงขอให้หน่วยในพื้นที่ไปสำรวจว่าควรจะสร้างฝายในจุดใดให้ประชาชน รวมทั้งจะนำโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติไปปลูกในพื้นที่ด้วย จากนั้นทางทหารก็ร่วมกับชาวบ้านในการสำรวจและเลือกจุดที่จะสร้างฝาย แล้วทหารและชาวบ้านก็ช่วยกันสร้างฝายโดยใช้ไม้ไผ่ และหินที่มีอยู่แล้วตามภูมิประเทศ ไม่ได้ใช้งบประมาณอะไรมากนัก แค่ค่าอาหาร เครื่องดื่ม และน้ำมันรถ แต่ใช้แรงงานทหารกับชาวบ้านที่ร่วมกันทำด้วยใจเพื่อให้มีแหล่งน้ำไว้ใช้
อีกทั้งสมาคมภริยาข้าราชการสำนักปลัดกลาโหมก็ถือเป็นหน่วยในสำนักปลัดกลาโหมที่ดูแลด้านสวัสดิการ ขวัญกำลังใจของครอบครัวทหาร จึงเป็นสิ่งที่หน่วยในพื้นที่ให้การสนับสนุน และก็จะมีการมอบเงินช่วยเหลือหน่วยให้ทุกครั้งที่มาเยือน ส่วนเรื่องชื่อฝาย “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” นั้น ทางหน่วยรายงานว่า เกิดจากการที่ชาวบ้านช่วยกันคิดชื่อ ขึ้นมาเองเพื่อเป็นการต้อนรับ เนื่องจากชาวบ้านมีความคุ้นเคย เคารพนับถือคุณอู๊ด ผ่องพรรณ อยู่แล้ว เพราะปกติจะมาทำประโยชน์ให้ชาวบ้าน มาเยี่ยมเยียน มาแจกผ้าห่ม เพราะเห็นว่าอากาศหนาวเย็น และมีโครงการนำลูกหลานกำลังพลที่เป็นเด็กพิเศษ ออทิสติก มาเที่ยวเชียงใหม่อีกด้วย ทั้งนี้ ในวันที่ไปปลูกป่าและทำพิธีเปิดฝายนั้นเกิดฝนตกอย่างหนักทั้งวันทั้งคืน ตั้งแต่ก่อนวันงานทำให้พื้นดินลื่น ระยะทางเดินจากจุดลงรถมายังฝายประมาณ 1 กม. แต่นายกสมาคมฯ ก็เต็มใจเดินมา สวมชุดกันฝน แต่เพราะทางลื่นและชัน จึงต้องมีคนคอยให้พยุงเพื่อไม่ให้ลื่นล้มไปเท่านั้น
“อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีรูปภาพนางผ่องพรรณและฝายออกมา และภาพต่างๆ ตามมาอีก ทั้งภาพเก่า ภาพใหม่นั้น มีการตั้งข้อสังเกตในหมู่ “คนใกล้ชิด” ว่า อาจมี “คนใน” ที่นำภาพเหล่านี้ไปส่งต่อไป เผยแพร่ และบิดเบือนเพื่อหวังผล เพราะรู้ว่านางผ่องพรรณเป็นเป้าทางการเมือง เพราะเป็นภริยา พล.อ.ปรีชา ปลัดกลาโหม น้องชายนายกฯ เพราะเป็นจันทร์โอชา เป็นน้องสะใภ้นายกฯ อีกด้วย จึงมีการสันนิษฐาน ใน 2 ประการ คือ 1. เกิดจากพวกที่ผิดหวังจากการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ในโผล่าสุด ที่ไม่พอใจปลัดกลาโหม
ประการที่ 2 อาจเป็นเพราะอาจมีคนในที่ไม่พอใจ หรือไม่ชอบนางผ่องพรรณ เนื่องจากเป็นคนดุ เข้มงวด เจ้าระเบียบ และอาจจะเคยดุใครไปแบบตรงๆ ก็อาจทำให้เกิดความไม่พอใจ แต่ถ้าใครที่รู้แนวก็จะต้องทำงานอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด และตอบคำถามให้ได้ทุกคำถาม เมื่อนั้นคุณอู๊ดก็จะไม่ดุ อย่างไรก็ตาม นางผ่องพรรณจะมีการชี้แจงเรื่องนี้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม”