“ประยุทธ์” เร่งตั้งผู้แทน รบ.แก้ไฟใต้ แย้มมี รมช.ร่วม ติงสื่อโฆษณาบีอาร์เอ็นทำรุนแรง

“บิ๊กตู่” แจงตั้งผู้แทนรัฐบาลแก้ไฟใต้ “ประวิตร” กำลังพิจารณาก่อนชงมาให้ตัดสินใจ เร่งให้เร็วที่สุด แย้มส่ง รมช.หนึ่งคนเร่งขับเคลื่อนร่วม ศอ.บต.-กอ.รมน. ไม่บอกเป็น “สุรเชษฐ์” หรือไม่ สื่ออย่าขยายความยกระดับบีอาร์เอ็น ชี้ใช้ ม.44 แก้ปัญหาจราจรต้องเพื่อบูรณาการ ไม่มีความเห็น กกต.ขัดแย้งกันเอง ไล่ไปหาข้อยุติ

วันนี้ (13 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีการตั้งผู้แทนรัฐบาลส่วนหน้าเพื่อแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าอยู่ระหว่างการพิจารณา โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเสนอมาถึงตนที่ได้ให้กรอบไปเอง และจะตั้งให้เร็วที่สุด ส่งมาเมื่อไหร่ก็เซ็นเมื่อนั้นและเขาก็กำลังจะส่งขึ้นมาอยู่แล้ว ให้ไปถาม พล.อ.ประวิตร ตนจะเป็นคนตัดสินใจสุดท้ายโดยจะอ่านและปรึกษาก่อนเซ็น ถ้าไม่อนุมัติก็กลับไปทำใหม่

นายกฯ กล่าวว่า โจทย์คือเราจะต้องสร้างการรับรู้ความเข้าใจว่าจะแก้ไขปัญหาภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วอย่างไร เพราะมีทั้งหมด 9 ยุทธศาสตร์ โดยเรื่องที่ 8 เป็นเรื่องของการพูดคุยสันติสุข แต่ไม่ใช่เจรจา เพราะการเจรจามันหมายถึงรบกัน การพูดคุยสันติสุขก็เพื่อดูว่าทำอย่างไรถึงจะอยู่ร่วมกันได้ในความแตกต่าง ดังนั้นตนจึงเสนอแนวทางให้รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และคณะฝ่ายความมั่นคงไปคิดเพื่อแสดงให้เห็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลให้ชัดเจนขึ้นซึ่งจะมีรัฐมนตรีที่รับผิดชอบส่วนหน้าโดยตรงสักคน อาจจะไม่ต้องไปประจำอยู่ในพื้นที่ แต่ไปๆ มาๆ โดยมีคณะทำงานเหมือนกับเป็นผู้แทนรัฐบาลไปรับฟังปัญหาโดยตรงจากพื้นที่และนำไปบูรณาการระหว่างศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จากที่ตนเป็นคนทำอยู่แล้วแต่ไม่มีโอกาสได้ลงพื้นที่บ่อยจึงต้องมีคณะทำงานนี้อยู่ในพื้นที่ โดยให้รัฐมนตรีช่วยหนึ่งคนลงไปกำกับดูแล เป็นการสร้างการรับรู้และให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญจริงๆ วันนี้ก็มีหน่วยงานดูแลพัฒนางบประมาณที่ลงไปทั้งหมด โดยมีรองนายกฯ ดูแล ทั้งโครงการ งบประมาณที่ลงไปปีละหลายพันล้าน ตรงนี้จะเป็นภาพใหญ่ ส่วนข้างล่างจะเป็นการพัฒนาของ ศอ.บต. และ กอ.รมน.ในเรื่องความมั่นคง ฉะนั้นถ้ามีหน่วยงานที่ทำงานได้ใกล้ชิดกว่าที่ตนกำกับดูแลก็จำเป็นต้องส่งคนลงไปดูแลข้างล่าง จึงได้คิดให้มีผู้แทนรัฐบาลส่วนหน้า

ผู้สื่อข่าวถามว่าองค์ประกอบผู้แทนรัฐบาลส่วนหน้ามีกี่คน จากที่มีข่าวว่ามีถึงสิบคน นายกฯ กล่าวว่า ไม่ถึงสิบ โดยที่คิดไว้จะเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการคนเดียว รับหน้าที่บูรณาการแผนงาน งบประมาณ ความมั่นคงในพื้นที่ทั้งหมดให้สอดคล้องขับเคลื่อนให้เร็วขึ้น ร่วมกับผู้ที่เกษียณอายุราชการทั้งทหารและพลเรือน เป็นคนที่มีประสบการณ์รู้ปัญหาดีอยู่ และสื่อสารโดยตรงมาที่ตนได้เลย

เมื่อถามว่ารัฐมนตรีช่วยที่เล็งไว้เป็น พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำว่า ยังไม่ขอบอกว่าเป็นใคร สื่ออยากตั้งใครให้เสนอมา และที่ พล.อ.สุรเชษฐ์ไปประสบอุบัติเหตุที่ จ.เชียงใหม่ เพราะเขาไปทำหน้าที่ด้านการศึกษา งานด้านนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย รวมถึงการแก้ปัญหาประเทศไทยก็ยังยาก เพราะความไม่เข้าใจกัน ทุกคนจะเอาความเห็นตัวเองเป็นหลักเสมอ ตนคิดว่าจะต้องเอาตรงกลางหาข้อยุติมาให้ได้ ทั้งซ้ายและขวาแล้วเอาหลักการและเหตุผลมาแก้ปัญหาตามนั้น

“อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก อย่าทำเรื่องยากเป็นง่าย หรือทำเรื่องยากให้ยากกว่า หลักการผมมีแค่นี้ ผมคิดจากประสบการณ์ที่บริหารราชการมา 40 ปี ทำงานอย่างนี้มาตลอด สร้างการรับรู้รับฟังความคิดเห็นให้มากขึ้นแล้วนำมาปรับสู่วิธีการปฏิบัติ ประยุกต์ตัวอย่างจากรอบบ้านที่มีอยู่ให้เข้ากับประเทศไทย แต่ค่อนข้างลำบากเพราะหลากหลายความคิด แต่หลักสำคัญต้องเคารพกฎหมายก่อน แต่จะเอาทุกอย่างแล้วประเทศแตกจะเอาหรือไม่” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข่าวกลุ่มบีอาร์เอ็นออกมายอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่าเขายอมรับ สื่อเชื่อเขาหรือ และยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยเจรจาอะไรกับใคร เพราะการเจรจานั้นคือการรบหรือทำสงคราม แต่เราไม่ได้ทำสงครามกับใคร เราบังคับใช้กฎหมายกับอาชญากรรม อาชญากรร้ายแรง เขาถึงเรียกว่าผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่เรียกว่าผู้ก่อการร้าย ถ้ามันบานปลายแบบนั้นใครที่เป็นคนชักศึกเข้ามา ตนไม่ได้ชักศึกเข้ามา เขาก็เป็นคนไทยนับถือศาสนาอิสลาม คนดีก็มีเยอะ กว่าร้อยละ 90 อยู่กับรัฐ สื่อจะไปสร้างความหวาดกลัว สร้างศักยภาพให้เขาทำไม ตนไม่ต้องการสร้างศักยภาพให้ใคร ไม่ว่ากลุ่มไหนก็ตาม ตนถามว่ามันสุ่มเสี่ยงกับการที่ต่างประเทศมาเกี่ยวข้องหรือไม่ แล้วบีอาร์เอ็นมีชื่ออยู่ในกระบวนการก่อการร้ายอยู่แล้วหรือไม่ ตัวตนอยู่ไหน เคยมาปรากฏกายหรือไม่ เป็นตัวจริงหรือเปล่า ไปโฆษณาให้อยู่ได้ ส่วนการประกาศรับผิดชอบทำไมไม่ทำแต่วันแรก ไปดูว่าทั้งโลกเขาประกาศในการก่อเหตุวันแรกทั้งนั้น สื่อมาถามกดดันรัฐเสร็จแล้วเขาก็ใช้ความรุนแรงกลับมาสู้ สื่อไม่ได้ตายแต่คนใต้ตาย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงแนวทางการใช้มาตรา 44 ในการแก้ปัญหาจราจรว่า เป็นเรื่องที่ สปท.เขาหารือแล้วก็มีมติเสนอมายัง ครม. ก็ต้องดูก่อนว่าการใช้มาตรา 44 เข้ามาบูรณาการ เพราะเอาไปใช้แก้ปัญหาจราจรโดยตรงมันทำไม่ได้อยู่แล้ว และก็มีระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่านต้องทำอย่างไร การจัดระเบียบ เพราะปล่อยปละละเลยกันมายาวนานในทุกเรื่อง ทำให้ปัญหามันพันกันไปหมด การเติบโตของเมืองใหญ่ที่ไม่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า เป็นปัญหามายาวนาน

“ก็ต้องไปดูในรายละเอียดว่าจะบูรณาการได้อย่างไร ของทุกกระทรวง เสนอวิธีการมาให้ใช้มาตรา 44 แต่จะใช้อย่างไรตรงไหนก็ควรบอกมาด้วย ผมก็ยังนึกไม่ออก แต่ใช้ในการบูรณาการตรงนี้ใช้ได้ แต่ต้องหารือกัน คณะรองนายกฯ ประวิตรกำลังดูอยู่”

เมื่อถามว่ามีข่าวว่า กกต.ขัดแย้งกันเองจะมีผลอย่างไรหรือไม่ เพราะเป็นหน่วยงานหลักที่ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่ลงรายละเอียดตรงนั้นเพราะตอนนี้อยู่ในช่วงการทำกฎหมายลูก ทั้งกรธ., สนช., กกต. ต้องหารือกันเตรียมเลือกตั้ง ส่วนตัวไม่มีความเห็น ถือว่าให้ทุกคนทำงาน ต้องไปหาข้อยุติมาให้ได้ว่าจะทำอย่างไร

เมื่อถามว่ามีการเสนอให้ใช้มาตรา 44 ยกเครื่อง นายกฯ กล่าวว่า อันนั้นยังไม่ต้องมาเสนอ เป็นเรื่องของตน