รองโฆษก ทบ.เผยเลขาฯ คสช.ขอบคุณทุกส่วนงานปฏิบัติตามแนวทาง คสช. ย้ำห่วงภัยพิบัติ ส่วนกลางหนุนเครื่องมือรับสถานการณ์ กกล.รส.ดำเนินการให้ข้อมูลต่อประชาชน กันบิดเบือน ยกโพลชี้ไดรับการสนับสนุนจาก ปชช. พร้อมหนุนโครงการสำคัญรัฐ ภูมิภาคดำเนินการคู่ขนาน กทม.
วันนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (เลขาธิการ คสช.) เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. โดย พล.อ.ธีรชัยได้ขอบคุณทุกส่วนงานที่ปฏิบัติตามแนวทางของ คสช.ในทุกด้าน ทำให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีความห่วงใยในภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ โดยเฉพาะดินโคลนถล่ม และน้ำท่วม กำชับให้มีการประสานการใช้กำลังและเครื่องมือบรรเทาภัยระหว่างจังหวัดและหน่วยทหารประจำพื้นที่ให้เตรียมการ มีความรอบคอบในทุกด้าน ซึ่งในส่วนกลางพร้อมที่จะสนับสนุนเครื่องมือพิเศษ อากาศยาน หรือความต้องการเฉพาะ เพื่อให้การรับมือกับสถานการณ์มีความพร้อมที่สุด
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวอีกว่า ในส่วนการสร้างความเข้าใจในข้อมูลข่าวสารให้แก่ประชาชนนั้น กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและประชาชนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ในขณะเดียวกันจะตรวจสอบและป้องปรามมิให้มีการบิดเบือนหรือสร้างข้อมูลเท็จ เพื่อให้สังคมมีความเข้าใจและมีส่วนร่วมในบริบทของบ้านเมืองในทิศทางที่ถูกต้อง เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา คสช.ได้รับการสนับสนุนและความไว้วางใจจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง ประเมินได้จากการพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ และจากผลการสำรวจของโพลที่สะท้อนให้เห็นถึงการรับรู้ในบทบาทของ คสช.ในการเข้าไปผลักดันและสนับสนุนการปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ ผ่านโครงการหรือมาตรการที่รัฐบาลกำหนด
รองโฆษก คสช.กล่าวอีกว่า ขณะนี้ คสช.ยังคงเดินหน้าสนับสนุนและช่วยขับเคลื่อนการบริหารงานของรัฐอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการสำคัญๆ อาทิ โครงการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้าน), โครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก (หมู่บ้านละ 2 แสนบาท), การตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์ม, การตรวจสอบปริมาณและคุณภาพยางพาราในโกดังของรัฐ, การช่วยระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐ, โครงการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าว, โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งการดูแลรักษาความปลอดภัย การบังคับใช้กฎหมายและงานจัดระเบียบสังคม อาทิ การจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะใน กทม.ให้เข้าสถานีขนส่ง โดยล่าสุดได้จัดทำแผนปฏิบัติการนำรถเข้าสถานีและแก้ไขปัญหาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น และจะปฏิบัติจริงในปลายเดือนตุลาคมนี้ ทั้งนี้ในส่วนภูมิภาคก็ได้ดำเนินการคู่ขนานในลักษณะเดียวกับพื้นที่ กทม.ด้วย