“วัลลภ” ย้ำต้องคงเนื้อหาคำถามพ่วงที่ผ่านประชามติ โหวตนายกฯ ยึดตามธรรมเนียม อย่าทำอะไรนอกเหนือรัฐธรรมนูญ แนะเสนอชื่อนายกฯ คนในหรือนอก ให้ที่ประชุมรัฐสภานัดแรก
วันนี้ (17 ส.ค.) นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า เมื่อร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงผ่านความเห็นชอบการลงประชามติแล้ว การปรับปรุงคำถามพ่วงในร่างรัฐธรรมนูญของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ กรธ.จะต้องคงเนื้อหาสาระที่ผ่านการลงประชามติไว้ทุกอย่าง จะไปตกแต่งถ้อยคำเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย เพราะเสียงข้างมากของประชาชนได้ลงประชามติเห็นชอบในถ้อยคำที่เสนอโดย สปท. และ สนช.ปรับถ้อยคำมาแล้ว ดังนั้นเพียงแต่หาที่ใส่ในรัฐธรรมนูญเท่านั้นจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
ส่วนกรณีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นก็เป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตามขั้นตอนเหมือนเช่นที่ผ่านมา โดยเมื่อมีประธานสภาแล้วก็เปิดประชุมรัฐสภานัดแรกแทนการประชุมเฉพาะสภาผู้เทนราษฎรเท่านั้นเพื่อดำเนินการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยพรรคเสียงข้างมาก และพรรคฝ่ายค้านหรือพรรคอื่นก็เสนอชื่อนายกฯ เพื่อให้ที่ประชุมลงคะแนนเลือก แต่ ส.ว.ไม่มีสิทธิที่จะเสนอชื่อนายกฯ แข่งด้วย โดยใครได้รับเสียงข้างมากก็ได้รับเลือกไป เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดทำอะไรที่ซับซ้อนกว่าที่เคยปฏิบัติมา
เมื่อถามว่ามีการเสนอให้ยกเว้นข้อบังคับการประชุมเพื่อเเสนอชื่อนายกฯ นอกบัญชี นายวัลลภกล่าวว่า “เป็นประชุมรัฐสภาครั้งแรก แล้วจะมีข้อบังคับอะไรที่ใหญ่ไปกว่ารัฐธรรมนูญอีก เพราะฉะนั้นอย่าไปทำอะไรนอกเหนือกว่ารัฐธรรมนูญ จะทำให้มีปัญหาโดยเฉพาะคนที่แพ้ประชามติจะไม่ให้การยอมรับด้วย”
นายวัลลภกล่าวว่า การประชุมรัฐสภาโหวตเลือกนายกฯ เป็นเรื่องของพรรคเสียงข้างมาก และพรรคฝ่ายค้าน หรือพรรคอื่นจะเสนอชื่อใครมาเป็นนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นคนในหรือคนนอกบัญชีพรรคการเมืองเสนอได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุมจะลงมติเลือกใคร ส่วนบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่พรรคการเมืองต้องเสนอ เจตนารมณ์เพื่อเปิดเผยชื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าใครจะมาเป็นนายกฯ เท่านั้น
