“บิ๊กหมู” เผยเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ ทบ. เหตุ ฮ.ตกคร่า 5 กำลังพล ย้ำดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างดี ยันปฏิบัติหน้าที่ตามปกติไม่ต้องทบทวน ชี้เป็นเหตุสุดวิสัย อากาศแปรปรวน ยันนักบินมีความสามารถ แจง กกล.รสช.ดูแลสถานการณ์ มีเหตุพร้อมดำเนินการ คดีลอบบึ้มใต้มีความคืบหน้า ให้ ปชช.เชื่อมั่นจับคนผิดได้
วันนี้ (16 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่ฝูงเครื่องบิน กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพนายทหารทั้ง 5 นายที่ จ.เชียงใหม่ ที่ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกว่า ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของกองทัพบกในการสูญเสียบุคลากรระดับผู้บัญชาการกองพล นักบินและช่างเครื่อง ทางกองทัพบกจะดูแลครอบครัวของกำลังพลผู้เสียชีวิตทั้ง 5 นายเป็นอย่างดี เพราะถือว่าทุกคนเป็นครอบครัวของกองทัพบก ทั้งเรื่องการดูแลบุตรธิดาหากต้องการเข้ารับราชการ รวมถึงสวัสดิการต่างๆ ทางนี้ยืนยันว่ากำลังพลทุกนายยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีสิ่งใดที่จะต้องทบทวน เพราะว่าเรื่องการใช้อากาศยานมีหลักเกณฑ์อยู่แล้ว การเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นเหตุสุดวิสัยเนื่องจากเรื่องของสภาพอากาศที่อยู่ในช่วงมรสุม ทาง พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผบ.พล.ร.4 และคณะมีความตั้งใจที่จะดูแลประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม จ.แม่ฮ่องสอน สำหรับเรื่องสภาพอากาศนั้นทาง ผบ.พล.ร.4 และนักบินก็ทราบดีอยู่แล้วแต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศมีความแปรปรวน อีกทั้งเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวเป็นเครื่องใหม่ที่มีขนาดเล็กเมื่อเจอสภาพอากาศที่แปรปรวนก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ อย่างไรก็ตาม นักบินของเรามีความเข้มแข็งและพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนเรื่องสภาพอากาศทางนักบินจะทราบดีว่าสภาพอากาศแบบไหนจะทำการบินได้หรือไม่ได้ ยืนยันว่านักบินมีความสามารถ แต่ในเหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย
พล.อ.ธีรชัยยังกล่าวถึงการดูแลสถานการณ์ในภาพรวมในขณะนี้ว่า ทางกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติในทุกกรณี เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของประเทศให้มีความเรียบร้อยและเอื้ออำนวยต่อการบริหารงานของรัฐบาล หากมีสิ่งใดที่เกิดขึ้นหรือขัดขวางไม่ให้ประเทศเกิดความสงบหรือแม้แต่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน กกล.รส.ก็จะเข้าดำเนินการทันที เพราะเรามีการวางกำลังและปรับโครงสร้างใหม่อยู่แล้ว ส่วนความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดและเผาในหลายพื้นที่จังหวัดภาคใต้นั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องดำเนินการ ทั้งนี้ ยืนยันว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และขอให้ช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตาและเฝ้าระวังสิ่งของที่ผิดปกติและบุคคลที่แปลกหน้าในชุมชนของตนเอง ขอให้ช่วยกันร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อทำให้ประเทศชาติร่มเย็นและให้ลูกหลานใช้ชีวิตอย่างสงบสุข อย่างไรก็ตาม ขอให้เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้